หูไม่ได้ยิน
ที่คนเราสามารถได้ยินเสียงต่างๆก็เนื่องมาว่ามีหูอวัยวะในการรับเสียง ซึ่งเสียงจะผ่านกระบวนการได้ยินเข้ามาจากช่องหู เริ่มตั้งแต่หูชั้นนอกเข้าไปยังหูชั้นกลาง จากนั้นจะเข้าไปยังหูชั้นใน พร้อมกับมีการส่งสัญญาณไปที่เส้นประสาทและส่งสัญญาณเป็นคลื่นไฟฟ้าไปที่สมอง เพื่อแยกแยะและแปลความหมายของเสียง จนทำให้คนเรารู้ความหมายของเสียงที่ได้รับ แต่ถึงอย่างนั้นกระบวนการทางการได้ยินของแต่ละคนก็ไม่ได้เหมือนกัน บางคนหูได้ยินเสียงชัดเจนตามปกติ บางคนก็หูไม่ได้ยินหรือ ได้ยินเสียงเบากว่าปกติ ซึ่งคนที่หูไม่ได้ยินอาจจะมีความผิดปกติจากกระบวนการรับเสียง รวมไปถึงเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ ซึ่งอาจจะต้องมีการตรวจหาสาเหตุกันต่อไป
หูไม่ค่อยได้ยิน มีสาเหตุเกิดจากอะไร
หูไม่ค่อยได้ยินเกิดจากหลายสาเหตุ สาเหตุแรกอาจจะเกิดจากความผิดปกติบริเวณหูชั้นนอก โดยอาจจะมีการอุดตันของขี้หู รูหูอักเสบหรือเกิดเชื้อรา ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการหูอื้อ หูตึง สาเหตุต่อมาอาจเกิดจากความผิดปกติบริเวณหูชั้นกลาง เช่น ท่อปรับความดันอากาศทำงานผิดปกติ มีหินปูนเกาะที่กระดูกชั้นกลาง มีน้ำขังในหูชั้นกลาง เป็นโรคหูน้ำหนวก หรืออาจเกิดจากเยื่อแก้วหูทะลุ จากการได้รับความรุนแรงที่บริเวณหูหรือได้รับเสียงที่ดังเกินไป นอกจากนี้สาเหตุของการที่หูไม่ค่อยได้ยินอาจเกิดจากหูชั้นในผิดปกติ ซึ่งเป็นสาเหตุที่เกิดขึ้นบ่อยที่สุด โดยมีสาเหตุมาจากการเสื่อมของอายุ การอักเสบของหูชั้นใน ประสาทหูโดนทำลายจากเสียงที่ดังมากเกินไป เกิดการติดเชื้อไวรัสที่หูชั้นในและเส้นประสาทหู นอกจากนี้การเป็นโรคเบาหวาน โรคไต โรคไขมันในเลือดสูง ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้หูชั้นในมีความผิดปกติได้เช่นกัน ในส่วนของกรรมพันธุ์ก็มีผล เพราะจากการศึกษาและทำการวิจัยพบว่าถ้ามีคนในครอบครัวเป็นโรคหูตึง คนในครอบครัวที่เหลือก็อาจจะเป็นโรคหูตึงตามไปด้วย
หูไม่ได้ยิน มีลักษณะอาการเป็นอย่างไร
สำหรับคนที่มี อาการหูไม่ค่อยได้ยิน อาการที่แสดงออกมาจะขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรง โดยระดับการได้ยิน 26-40 เดซิเบลยังถือว่าเป็นระดับความรุนแรงน้อย แม้จะได้ยินเสียงในระดับปกติ แต่ก็จะเริ่มไม่ได้ยินเสียงกระซิบ เริ่มได้ยินเสียงไม่ชัด ในระหว่างที่สนทนาก็อาจจะได้ยินคำไม่ครบ อาจจะมีบางคำที่หายไป ไม่ได้ยินครบทั้งประโยค จนอาจจะต้องขอคู่สนทนาพูดซ้ำหลายๆครั้ง นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบต่อเรื่องของการใช้ชีวิต เพราะในระหว่างที่ดูโทรทัศน์อาจจะต้องเพิ่มเสียงให้ดังมากกว่าปกติ ส่วนการพูดก็อาจจะพูดดังกว่าปกติซึ่งก็อาจจะทำให้คนอื่นตกใจได้
มีอาการหูไม่ได้ยิน เสี่ยงต่อการเกิดโรคอะไรบ้าง
อาการหูไม่ค่อยได้ยิน แม้จะเริ่มจากอาการเล็กๆเช่น หูอื้อ ได้ยินเสียงก้อง มีเสียงดังภายในหู แต่ถ้าไม่มีการรักษาโดยเร็วและถูกต้อง ก็มีโอกาสสูงที่จะทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนตามมา ซึ่งโรคต่างๆที่มีโอกาสเกิดขึ้นจากอาการหูไม่ได้ยิน จะยกตัวอย่างได้ดังนี้
- โรคหูหนวก เป็นโรคที่จะทำให้ความสามารถในการได้ยินเสียงลดลงหรืออาจจะสูญเสียการได้ยินไปทั้งหมด ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตและการสื่อสารกับผู้คน
- โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน เป็นโรคที่จะทำให้รู้สึกตื้อๆในหู มีเสียงรบกวนในหูอาจจะต่อเนื่องหรือเกิดขึ้นช่วงเวลาหนึ่ง สำหรับคนที่เป็นโรคนี้ความสามารถในการได้ยินเสียงจะลดลง อีกทั้งยังทำให้รู้สึกเวียนหัว รู้สึกคลื่นไส้และอาเจียนตามไปด้วย
- โรคหูดับเฉียบพลัน เป็นโรคที่จะทำให้ความสามารถในการได้ยินเสียงลดลง โดยจะลดลงมากกว่า 30 เดซิเบล ส่งผลให้คนที่เป็นโรคนี้เกิดอาการหูอื้อ ไม่สามารถหายได้เองภายใน 1 วัน ซึ่งอาจจะส่งผลยาวนานและทำให้การได้ยินเสียงลดลงไปเรื่อยๆ
หูไม่ได้ยิน รักษาอย่างไรได้บ้าง
เชื่อว่าคงมีหลายคนสงสัยว่าหูไม่ค่อยได้ยินรักษาอย่างไร? เพราะไม่มีใครอยากที่จะมีอาการหูไม่ค่อยได้ยิน ซึ่งเรื่องของการรักษานั้นมักจะขึ้นอยู่กับอาการความผิดปกติที่หูของแต่ละคน ถ้ามีปัญหาที่หูชั้นนอกหรือชั้นหูกลาง ก็สามารถรักษาด้วยยาหรือการผ่าตัดได้ แต่ถ้าหากว่าเกิดความผิดปกติที่หูชั้นในหรือเกิดความเสื่อมสภาพที่หูชั้นใน ต้องได้รับการรักษาจากแพทย์ผู้ชำนาญ ซึ่งก็อาจจะต้องใช้เวลานานและต้องรักษาอย่างต่อเนื่อง เพราะหูชั้นในเป็นบริเวณที่ค่อนข้างซับซ้อน รักษาได้ยาก ถ้าหากรักษาไม่ได้ ก็อาจจะต้องมีการใส่เครื่องช่วยฟังไว้ที่ช่องหูแทน
วิธีป้องกันไม่ให้เกิดอาการหูไม่ได้ยิน ต้องทำอย่างไร
ด้วยความที่อาการหูไม่ค่อยได้ยินรักษาค่อนข้างยาก จึงควรที่จะต้องมีการป้องกัน เพื่อไม่ให้เกิดอาการหูไม่ค่อยได้ยิน เป็นสิ่งที่ดีกว่าที่การมารักษาในภายหลัง โดยวิธีการป้องกันการเกิดอาการหูไม่ค่อยได้ยินนั้นสามารถทำได้หลายวิธีดังต่อไปนี้
- หลีกเลี่ยงเสียงที่ดังเกินไป เช่น ไม่ฟังเพลงจากหูฟังที่ดังเกินไป ไม่อยู่ใกล้ลำโพง หลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีเสียงดัง เช่น คอนเสิร์ต สถานที่ที่กำลังก่อสร้างหรือโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ เป็นต้น
- ใส่ที่ครอบหูหรือที่อุดหู ถ้าหากมีความจำเป็นที่จะต้องเผชิญกับสถานที่ที่มีเสียงดัง ให้ใส่ที่อุดหูที่ทำจากโฟมหรือยางเอาไว้ เพราะจะช่วยลดเสียงดังได้ค่อนข้างมาก
- ไม่สูบบุหรี่ เพราะฤทธิ์ของบุหรี่จะทำให้สูญเสียความสามารถในการได้ยิน จึงไม่ควรสูบบุหรี่หรือสัมผัสกับควันบุหรี่
- กำจัดขี้หู การกำจัดขี้หูถือว่าเป็นการป้องกันการเกิดอาการหูไม่ค่อยได้ยินที่ค่อนข้างดีและสามารถทำได้ง่าย แต่การกำจัดขี้หูควรทำให้ถูกวิธี เพื่อป้องกันไม่ให้เยื่อหูและอวัยวะภายในหูเกิดความเสียหาย
สำหรับอาการหูไม่ค่อยได้ยิน นอกจากจะทำให้ความสามารถในการได้ยินลดลง ยังทำให้ส่งผลเสียต่อการใช้ชีวิตประจำวัน อีกทั้งยังทำให้เป็นต้นกำเนิดของโรคต่างๆ ที่อาจจะทำให้สูญเสียความสามารถทางการได้ยินไปแบบถาวร ดังนั้นจึงต้องมีการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดอาการหูไม่ได้ยิน โดยสามารถทำได้หลายวิธี ซึ่งวิธีที่ง่ายที่สุดก็การกำจัดขี้หูและการหลีกเลี่ยงเสียงที่ดังเกินไป
– – – – – – –
ช่องทางติดต่อทั้งหมด : https://rakmor.com/contact-us/
โทรติดต่อ : 062-696-8628
Line@ : @Rakmor