คนจำนวนไม่น้อยที่อาจจะสงสัยว่ากลุ่มคน “ นีท ( Neet ) ” และ คนโลกส่วนตัวสูง เหมือนกันหรือไม่ รู้หรือไม่ว่าหลายปีที่ผ่านมานี้ ประชากรกลุ่มหนึ่งในประเทศญี่ปุ่นประสบปัญหากลุ่มคนที่ถูกเรียกว่า “Neet” ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตและส่งผลกระทบเป็นวงกว้างในสังคม วันนี้เรามีเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับพฤติกรรมของกลุ่มคน Neet ไปดูกันว่า Neet คืออะไร แตกต่างจากคนที่มีโลกส่วนตัวสูงอย่างไรบ้างและต้องเข้ารับการรักษาหรือไม่ อย่างไร
NEET คืออะไร
Neet หรือ นีท คำที่ย่อมาจาก Not in Education, Employment or Training คือ บุคคลที่มีช่วงอายุระหว่าง 15-24 ปี ซึ่งไม่ได้ทำงาน ไม่ได้เรียนหนังสือหรือไม่ได้รับการฝึกฝนอะไรเลย บุคคลเหล่านี้มักจะเก็บตัวอยู่ในห้อง หมกมุ่นอยู่กับสิ่งที่ตัวเองให้ความสนใจ เช่น คอมพิวเตอร์ เล่นเกม ดูการ์ตูน ฯลฯ โดยมีครอบครัวช่วยเหลือเรื่องการเงินต่างๆ Neet สามารถออกมาพบเจอโลกภายนอกได้ แต่จะหลีกเลี่ยงคนหมู่มากเพราะจะมีอาการแพนิค หรือภาวะตื่นตระหนกต่อสิ่งที่พบเจอ รู้สึกหวาดกลัวแบบรุนแรง
Neet เกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้าง
สาเหตุของการเกิดภาวะ Neet หรือ นีท จริงๆ แล้วมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย ดังนี้
- เกิดจากการที่บุคคลคนนั้นๆ พบเจอกับความล้มเหลวในชีวิต
- ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ
- การเลี้ยงดูจากพ่อแม่หรือผู้ปกครอง
- ได้รับแรงกดดันจากคนรอบข้างหรือสังคม
- มีภาวะปรับตัวเข้ากับสังคมไม่ได้
NEET และ คนโลกส่วนตัวสูง แตกต่างกันอย่างไร
เชื่อว่าหลายคนในที่นี้คงสงสัยว่า Neet แตกต่างจากคนที่มีโลกส่วนตัวสูงหรือไม่ และแตกต่างกันอย่างไร จริงๆ แล้ว Neet แตกต่างจากคนที่มีโลกส่วนตัวสูง โดยมีความแตกต่างกัน ดังนี้
- Neet ไม่สามารถออกไปเรียนหรือออกไปทำงานได้ มีภาวะหวาดกลัวรุนแรง
- คนที่มีโลกส่วนตัวสูงสามารถออกไปเรียน หรือทำงานหาเงินได้ปกติ
- คนที่มีโลกส่วนตัวสูงใช้ชีวิตเหมือนคนทั่วไป แต่ไม่ชอบเข้าสังคม
- คนมีโลกส่วนตัวสูง มีเพื่อนน้อยแต่สามารถทำกิจกรรมร่วมกับผู้อื่นได้บ้าง
- Neet ไม่ชอบทำกิจกรรมร่วมกับผู้อื่นเลย
กลุ่มคนที่มีภาวะ NEET จะเป็นปัญหาต่อสังคมหรือไม่
Neet อย่างที่บอกว่าคือกลุ่มคนที่ไม่เรียน ไม่ทำงาน ในทางการเมืองจึงจัดให้อยู่ในกลุ่มคนที่ว่างงาน รัฐบาลเกือบทุกประเทศทั่วโลก มีนโยบายรองรับกลุ่มคนเหล่านี้ด้วยการจ่ายค่ามอบชีพ แต่ Neet ไม่เหมือนกลุ่มคนว่างงานทั่วไป เพราะเขาไม่ได้ต้องการทำงานเลยต่างหาก การที่พวกเขาได้รับเงินค่าครองชีพซึ่งเป็นเงินภาษีของประชาชน ทำให้ประชาชนทั่วไปไม่พึงพอใจและเกิดการต่อต้านกลุ่มคนเหล่านี้ เนื่องจากพวกเขาไม่ได้มีส่วนร่วมในการเสียภาษีหรือทำคุณประโยชน์ใดๆ ให้กับประเทศเลย Neet ในอดีตอาจพบเจอได้มากที่ประเทศญี่ปุ่น
เนื่องจากถูกกดดันทางสังคม หรือถูกคาดหวังทางสังคมในเรื่องการเรียน การทำงานและการใช้ชีวิต แต่ปัจจุบัน Neet มีอยู่ทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยของเราก็ด้วยเช่นเดียวกัน จากการสำรวจในปี พ.ศ. 2562 ผลสำรวจพบว่าประชากรไทยมีผู้เป็น Neet สูงถึง 1.3 ล้านคนหรือคิดเป็น 14% ของประชากรไทยทั้งหมด ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนเยาวชน นอกจากนั้นยังมีอัตราการเกิดภาวะ Neet เฉลี่ย 1% ข้อมูลนี้สวนทางกับเยาวชนไทยที่ลดลงเฉลี่ย 1.2% ในทศวรรษที่ผ่านมา
Neet กลายเป็นภาวะที่หนักหน่วงของครอบครัว ซึ่งครอบครัวต้องมีรายจ่ายมากกว่ารายรับ และถ้าหากผู้ปกครองหรือผู้สูงอายุที่ดูแลกลุ่มคนที่มีภาวะ Neet เสียชีวิตไป กลุ่มคนที่เป็น Neet จะกลายเป็นปัญหาของสังคมในที่สุด อีกทั้งยังทำให้ประเทศเกิดภาวะขาดแคลนแรงงานด้วย
ทำอย่างไรให้หายจากอาการ NEET
อันดับแรกอยากให้ทุกคนทำความเข้าใจก่อนว่า Neet ไม่ใช่โรค แต่เป็นอาการที่เกิดขึ้นจากสภาพทางจิตใจ ซึ่งต้องได้รับการบำบัดและรักษาจากจิตแพทย์โดยตรง อย่างไรก็ตาม Neet อาจไม่สามารถหายได้ด้วยการรักษาเพียงอย่างเดียว แต่ต้องได้รับการรักษาอย่างเคร่งครัดและรักษาอย่างต่อเนื่อง อาการเหล่านี้ก็จะสามารถหายไปได้ สิ่งสำคัญในการรักษา คือ ครอบครัว ซึ่งครอบครัวต้องให้กำลังใจและดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะครอบครัวสามารถพูดคุยสื่อสารกับพวกเขาได้ดีที่สุด ลองพูดกระตุ้นให้กำลังใจ ให้พวกเขาเกิดแรงบันดาลใจ อยากออกไปใช้ชีวิต ออกไปพบปะผู้คน หรืออาจหากิจกรรมให้พวกเขาทำบ่อยๆ ทุกอย่างจะดีขึ้นแน่นอน
ข้อควรระวังในการใช้ชีวิตร่วมกับคนที่มีอาการ NEET
หากคุณต้องใช้ชีวิตร่วมกับคนที่มีอาการ Neet มีข้อควรระวังดังต่อไปนี้
- ไม่พูดจาทำร้ายจิตใจ หรือดูถูกทำให้คนเหล่านี้รู้สึกด้อยค่า
- อย่าละเลยที่จะรับฟังปัญหา ร่วมพูดคุย รับฟังความคิดเห็น
- อย่าคิดว่าการใช้ชีวิตร่วมกับคนที่เป็น Neet คือภาระหรือรังเกียจคนเหล่านี้
- ห้ามไปกดดัน เช่น เร่งรัดให้หางานทำ บังคู่ ขู่เข็น ฯลฯ
สรุปให้ทุกคนเข้าใจกันอีกครั้ง Neet ไมใช่โรค ไม่ใช่คนที่มีโลกส่วนตัวสูง และไม่ใช่ โรคซึมเศร้าที่หลายคนวิตกกังวล แต่เป็นภาวะที่ต้องได้รับการรักษา บำบัดจากจิตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ในขณะเดียวกันก็ต้องได้รับแรงบันดาลใจจากครอบครัวด้วย ครอบครัวต้องให้ความช่วยเหลือในการรักษา เพราะคนที่เป็น Neet มีโอกาสหายกลับมาใช้ชีวิตเหมือนคนปกติได้
หากได้รับการดูแลเอาใจใส่จากครอบครัว ที่สำคัญต้องได้รับการรักษาอย่างถูกต้องด้วย เป็นอย่างไรกันบ้าง เชื่อว่าข้อมูลที่เราเอามาแชร์ในวันนี้จะมีประโยชน์ต่อทุกคน ทำให้คุณมีความรู้ มีความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับภาวะนี้ ก่อนจากกันไป เราอยากฝากแง่คิดอะไรไว้สักอย่าง คนที่เป็นโรค Neet เขาก็คือมนุษย์คนหนึ่งและไม่มีเหตุผลใดเลยที่พวกเขาจะถูกปฏิเสธหรือถูกปิดกั้นโอกาสทางสังคม
– – – – – – –
ช่องทางติดต่อทั้งหมด : https://rakmor.com/contact-us/
โทรติดต่อ : 062-696-8628
Line@ : @Rakmor
FB : https://www.facebook.com/Rakmormedical