อินซูลิน คืออะไร เราได้กล่าวถึงไปแล้วในบทความที่ผ่านมา ฮอร์โมนที่สร้างจากตับอ่อน ช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือด อินซูลินลดความอ้วนโดยนำน้ำตาลจากเลือดเข้าไปในเซลล์เพื่อใช้เป็นพลังงาน แต่ผู้ป่วยโรคเบาหวานอินซูลินไม่สามารถออกฤทธิ์ได้ปกติหรือขาดอินซูลิน เมื่อรักษาด้วยการทานยาแล้วไม่ได้ผล จำเป็นต้องได้รับอินซูลินทดแทนด้วยยาฉีดอินซูลิน
วิธีฉีดอินซูลิน
ฉีดอินซูลินอันตรายไหม จริงๆ แล้วอาจมีผลข้างเคียงเกิดขึ้นได้ เช่น ในกรณีที่ได้รับอินซูลินมากเกินไป ส่งผลให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำทำให้มีอาการอื่น ๆ ตามมาไม่ว่าจะเป็นเหงื่อออก มือสั่น ใจสั่น หน้าซีด ฯลฯ บางรายถึงขั้นหมดสติ
นอกจากนั้นยังอาจเกิดอาการแพ้ มีผดผื่นคัน ผิวหนังบริเวณที่ฉีดอินซูลินอาจเกิดรอยนูนหรือรอยบุ๋มขึ้นได้ กรณีที่ผู้ป่วยมีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำให้ดื่มน้ำหวาน อมลูกอม ทานผลไม้ เช่น กล้วยน้ำว้า ส้ม เป็นต้น แต่ถ้าหมดสติไม่รู้สึกตัวให้รีบนำส่งโรงพยาบาลทันที ในบทความนี้เราจะพามาดูวิธีฉีดอินซูลิน เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติที่ถูกต้อง เพราะหากฉีดผิดวิธีก็สามารถเกิดอันตรายได้เช่นเดียวกัน
การฉีดอินซูลินผู้ป่วยเบาหวาน มีขั้นตอนอย่างไร
วิธีเพิ่มอินซูลิน หรือฉีดอินซูลินเข้าสู่ร่างกายเพื่อรักษาสมดุลน้ำตาลในเลือดสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน ใช้รักษาผู้ป่วยเบาหวานได้ทั้งเบาหวานชนิดที่ 1 และชนิดที่ 2 สำหรับขั้นตอนการฉีดอินซูลินมีดังต่อไปนี้
1. เตรียมอุปกรณ์
ขั้นตอนแรกต้องเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม ได้แก่ ปากกา หลอดอินซูลิน สำลี หัวเข็ม แอลกอฮอล์ ถาดรองและกระป๋องทิ้งเข็ม จากนั้นให้บรรจุหลอดอินซูลินในปากกา เตรียมสำลีชุบแอลกอฮอล์ 2 ก้อน สำลีแห้ง 1 ก้อน เช็ดจุกยางก่อนสวมหัวเข็มแล้วรอให้แห้ง ก่อนสวมเข็มในแนวเดียวกันกับปากกา เสร็จแล้วให้คลึงอินซูลิน (ชนิดน้ำขุ่น) แนวนอน 10 ครั้ง แนวตั้ง 10 ครั้ง เพื่อให้อินซูลินเป็นเนื้อเดียวกัน ตามด้วยการไล่ฟองอากาศเพื่อทดสอบการไหลของอินซูลินครั้งละ 1-2 ยูนิต จนมองเห็นหยดอินซูลินที่ปลายเข็ม สุดท้ายให้ตั้งขนาดอินซูลินตามแพทย์แนะนำ
2. การฉีด
สามารถฉีดอินซูลินเข้าสู่ชั้นใต้ผิวหนัง ได้แก่ บริเวณขา แขน สะโพก และหน้าท้อง ตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุดคือ บริเวณหน้าท้อง หลีกเลี่ยงบริเวณผิวหนังที่อักเสบ การฉีดที่หน้าท้องให้ห่างจากรอบสะดือ 2 นิ้ว หรือ 3 ซม. ไม่ควรฉีดในตำแหน่งเดียวกันหรือใกล้กัน โดยมีวิธีการดังนี้
- การฉีดให้ใช้มือข้างที่ถนัดกำปากกา ใช้หัวแม่มือกดฉีดที่ปุ่มกดยาด้านบนปากกา หากเป็นปากกา Auto Pen ใช้หัวแม่มือสไลด์ปุ่มเดินยาที่อยู่ด้านข้างของปากกาไปด้านหน้า
- ก่อนฉีดใช้สำลีชุบแอลกอฮอล์ทำความสะอาดตำแหน่งที่จะฉีด
- รอให้แห้ง ดึงผิวยกขึ้น
- แทงเข็มตั้งฉากเข้าไปจนมิดเข็ม กดเดินยาจนถึงเลข 0 นับ 10 วินาทีช้า ๆ
- เมื่อเดินยาเสร็จยกเข็มออก ใช้สำลีแห้งกดตำแหน่งฉีด สวมปลอกเข็มกลับด้วยความระมัดระวัง
3. การทิ้งเข็ม
เข็มฉีดอินซูลินสามารถใช้ซ้ำได้ประมาณ 3-5 ครั้ง สำคัญคือห้ามเช็ดปลายเข็มด้วยสำลีชุบแอลกอฮอล์ การทิ้งเข็มให้ทิ้งในภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิด นำภาชนะที่บรรจุไปทิ้ง ณ ตำแหน่งที่โรงพยาบาลจัดเตรียมให้
นี่ก็คือขั้นตอนการฉีดอินซูลินเพื่อเป็นแนวทางให้ทุกคนได้นำไปปฏิบัติตามอย่างถูกต้อง นอกจากการใช้อินซูลินรักษาเบาหวานแล้ว การติดตามอาการก็สำคัญไม่แพ้กัน ปัจจุบันนิยมใช้เครื่องตรวจน้ำตาลในเลือด มีความแม่นยำ ทันสมัย มาพร้อมอุปกรณ์ครบชุดสามารถใช้เช็คระดับน้ำตาลในเลือดได้ด้วยตนเองทำให้ทราบภาวะความเสี่ยงจะได้เฝ้าระวังจนนำไปสู่การรักษาตัวอย่างทันท่วงที
ตำแหน่งฉีดอินซูลิน อยู่ตรงไหน
ฉีดอินซูลิน ตำแหน่งไหนดี อย่างที่เราได้กล่าวไปแล้วในข้างต้นคือสามารถฉีดเข้าใต้ผิวหนังในบริเวณต่างๆ ได้ เช่น แขน หน้าขา สะโพก และหน้าท้อง โดยตำแหน่งที่ดีเหมาะสมมากที่สุดคือ บริเวณหน้าท้อง เนื่องจากจะทำให้การดูดซึมของยาคงที่ แต่ควรฉีดให้ห่างจากรอบสะดือประมาณ 2 นิ้ว และไม่ควรฉีดซ้ำในตำแหน่งเดิม
ถ้าหากลืมฉีดอินซูลิน จะเป็นอะไรไหม
ลืมฉีดอินซูลินก่อนอาหาร อันตรายไหม สำหรับอินซูลินชนิดออกฤทธิ์สั้นมากให้ฉีดก่อนทานอาหารประมาณ 15 นาที สำหรับอินซูลินชนิดออกฤทธิ์สั้นให้ฉีดก่อนทานอาหารประมาณ 30 นาที หากลืมยังสามารถฉีดระหว่างรับประทานอาหารได้ สำหรับอินซูลินออกฤทธิ์ปานกลางหรือยาว อาจฉีดก่อนอาหารหรือก่อนนอน ผู้ป่วยไม่ควรลืมฉีดอินซูลินบ่อยๆ ต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างใกล้ชิด
หลังจากทราบวิธีฉีดอินซูลินไปแล้ว ต่อมาก็ต้องหมั่นตรวจเช็คควบคุณปริมาณน้ำตาลในเลือดอยู่เสมอ โดยสามารถใช้เครื่องวัดน้ำตาลเพื่อตรวจวัดผลได้ด้วยตัวเองแบบไม่ยุ่งยากที่บ้าน ซึ่งทางร้านขายอุปกรณ์การแพทย์รักหมอ เมดิคอล ก็มีเครื่องวัดน้ำตาลจากแบรนด์ชั้นนำให้เลือกมากมาย หากไม่แน่ใจว่าจะเลือกซื้อเครื่องวัดน้ำตาลยี่ห้อไหนดี สามารถคลิกสอบถามข้อมูลกับเจ้าหน้าที่เราได้เลยตลอด 24 ชม. 😊
– – – – – – –
ช่องทางติดต่อทั้งหมด : https://rakmor.com/contact-us/
โทรติดต่อ : 062-696-8628
Line@ : @Rakmor
FB : https://www.facebook.com/Rakmormedical