ความหวาน คืออะไร
รสชาติหวาน คือหนึ่งในรสชาติหลักที่มนุษย์สามารถรับรู้ได้ เมื่อได้รับรสหวาน ร่างกายจะรู้สึกได้ถึงความสุขความพอใจ เพราะรสหวานจะไปกระตุ้นระบบสัมผัสในการรับรส แต่ถึงแม้ว่ารสหวานจะทำให้มีความสุข มีความเพลิดเพลิน แต่มนุษย์ก็ไม่ควรทานรสหวานมากเกินไป เพราะรสหวานส่วนใหญ่มาจากน้ำตาล คนที่รับประทานรสหวาน จึงจำเป็นต้องรู้ว่าควรกินน้ำตาลวันละกี่กรัม เพื่อไม่ให้เกิดผลเสียต่อร่างกาย
ปริมาณน้ำตาลต่อวัน ที่ควรบริโภคให้เหมาะสม
ปริมาณน้ำตาลที่คนเราควรทานในแต่ละวัน จะแตกต่างกันไปตามอายุ เพศ ระดับกิจกรรม และสุขภาพโดยรวม สำหรับปริมาณน้ำตาลต่อวันที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้แนะนำตามเกณฑ์อายุและเพศ ทางองค์การได้แนะนำไว้ดังนี้
ปริมาณน้ำตาลต่อวันสำหรับเด็ก
- เด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี : แนะนำให้บริโภคน้ำตาลจากธรรมชาติ และหลีกเลี่ยงการบริโภคน้ำตาลจากการเติมน้ำตาล
- เด็กอายุ 2-18 ปี : ควรบริโภคน้ำตาลน้อยกว่า 10% ของพลังงานทั้งหมด แนะนำทานประมาณ 4 ช้อนชา ไม่ควรทานในปริมาณที่มากกว่านี
ปริมาณน้ำตาลต่อวันสำหรับคนวัยทำงาน
- ผู้ชาย : น้ำตาลที่รับประทานจะต้องไม่เกิน 6 ช้อนชาต่อวัน
- ผู้หญิง : น้ำตาลที่รับประทานจะต้องไม่เกิน 4 ช้อนชาต่อวัน
ปริมาณน้ำตาลต่อวันสำหรับคนสูงวัย
- ผู้ชาย : จะต้องทานน้ำตาลไม่เกิน 4 ช้อนชาต่อวัน
- ผู้หญิง : จะต้องทานน้ำตาลไม่เกิน 4 ช้อนชาต่อวัน
การบริโภคของหวานมากเกินไป ไม่ดีต่อสุขภาพ
การบริโภคของหวานที่มีปริมาณน้ำตาลที่สูง อาจทำให้เกิดผลเสียและเป็นอันตรายต่อสุขภาพหลายอย่าง หลักๆแล้วจะทำให้เกิดผลเสียดังนี้
- ทำให้เป็นโรคอ้วน โรคอ้วนส่วนใหญ่มีผลจากการบริโภคของหวานที่มีน้ำตาลมากเกินไป โดยประทานเป็นประจำ น้ำหนักจะเพิ่มขึ้น และยังทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคอ้วน ซึ่งโรคอ้วนก็มีความสัมพันธ์กับปัญหาสุขภาพต่างๆ เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน และมะเร็งบางชนิด
- เพิ่มความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง การบริโภคน้ำตาลในปริมาณที่สูง ทำให้เกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2 โรคหัวใจและหลอดเลือด กลุ่มอาการเมตาบอลิซึม และยังไปเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด ทำให้ดื้อต่ออินซูลิน ซึ่งจะทำให้ร่างกายเกิดการอักเสบ เมื่อเกิดเป็นแผลก็จะหายช้ากว่าปกติ
- สุขภาพฟันไม่ดี อาจทำให้ฟันผุ มีแบคทีเรียในปาก ซึ่งแบคทีเรียก็จะทำให้เกิดกรดที่กัดกร่อนสารเคลือบฟัน นำไปสู่ปัญหาทางทันตกรรม ถ้าไม่มีการรักษาสุขอนามัยในช่องปากอย่างเหมาะสม ก็จะยิ่งทำให้ฟันผุ และทำให้ปัญหาสุขภาพช่องปากตามมา
- ขาดสารอาหาร อาหารที่มีน้ำตาลสูง มักมีสารอาหารที่จำเป็นต่ำ ซึ่งเมื่อคนเราบริโภคอาหารที่มีน้ำตาลในปริมาณที่มากเกินไป จะนำไปสู่การขาดสารอาหาร แล้วปัจจัยนี้ก็จะส่งผลต่อสุขภาพโดยรวม และเพิ่มความเสี่ยงต่อความบกพร่องของร่างกายในส่วนต่างๆ
- ส่งผลกระทบด้านลบต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด โดยของหวานจะทำให้น้ำตาลในเลือดพุ่งสูง ยิ่งถ้าน้ำตาลถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด ยิ่งจะทำให้มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวาน และทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ
ทานอาหารมีน้ำตาล ควรหมั่นเช็คน้ำตาลในเลือดบ่อยๆ
ปัจจุบันคนเรานิยมทานอาหารที่มีน้ำตาลสูง เพราะมีรสชาติที่อร่อย ทานแล้วมีความสุข มีพลัง แต่อาหารเหล่านี้ก็มีปริมาณน้ำตาลต่อวันที่ค่อนข้างสูง โดยอาหารน้ำตาลสูงที่คนส่วนใหญ่นิยมทานหลักๆมีอยู่ 5 อย่างดังนี้
- น้ำอัดลมรสชาติต่างๆ เป็นอาหารที่คนส่วนใหญ่นิยมทาน ซึ่งโดยทั่วไปแล้วน้ำอัดลมมีน้ำตาลผสมอยู่ประมาณ 65 กรัม หรือประมาณ 16 ช้อนชาเลยทีเดียว
- โยเกิร์ตผลไม้ ปัจจุบันโยเกิร์ตผลไม้มักมีการเติมน้ำตาลเพิ่มเข้าไป เพื่อให้มีรสชาติที่อร่อยยิ่งขึ้น สำหรับปริมาณน้ำตาลในโยเกิร์ตผลไม้ มีอยู่ประมาณ 15 ถึง 30 กรัม หรือประมาณ 3 ถึง 7 ช้อนชา
- ไอศกรีม หนึ่งในอาหารที่คนเรานิยมทาน โดยในไอศกรีมชนิดปรุงแต่งและมีรสหวาน จะมีน้ำตาลอยู่ประมาณ 15 ถึง 25 กรัม คิดเป็นช้อนชาคือ 3 ถึง 5 ช้อนชา
- ขนมเค้ก สำหรับปริมาณน้ำตาลในขนมเค้ก จะขึ้นอยู่กับสูตรและปริมาณส่วนผสมในการทำเค้ก แต่หลักๆแล้วขนมเค้ก 1 ชิ้นมีปริมาณน้ำตาลอยู่ 25 กรัม หรือ 5 ช้อนชา
- ชานมไข่มุก โดยปกติแล้วชานมไข่มุกมักจะมีปริมาณน้ำตาลค่อนข้างสูง โดยอาจจะมีปริมาณน้ำตาลตั้งแต่ 16 กรัม หรือ 4 ช้อนชา ไปจนถึง 74 กรัม หรือ 18 ช้อนชา
เนื่องจากอาหารเหล่านี้มีปริมาณน้ำตาลที่สูง ดังนั้นคนที่คิดอยากจะทาน ควรไตร่ตรองและควรดูรายละเอียดปริมาณน้ำตาลให้ดีทุกครั้งก่อนทาน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาสุขภาพ ส่วนใครที่กลัวว่าตัวเองจะมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวาน หรือกลัวว่าตัวเองจะมีระดับน้ำตาลในเลือดที่สูง ให้ตรวจระดับน้ำตาลในเลือด ด้วยเครื่องวัดน้ำตาลในเลือด จาก Rakmor เพราะเครื่องวัดระดับน้ำตาลในเลือดจะทำให้ได้รู้ว่าตอนนี้ระดับน้ำตาลในเลือดอยู่ที่เท่าไหร่ และยังทำให้ได้รู้ว่าควรจะควบคุมน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในระดับไหน เพื่อไม่ให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพ และเพื่อไม่ให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวาน
ขอใบเสนอราคาด่วน...คลิก