เสียงหัวใจทารกในครรภ์
เสียงหัวใจทารกในครรภ์ คือ เสียงอัตราการเต้นของหัวใจทารกในครรภ์ ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณแม่อยากฟังมากที่สุด เพราะทารกยังอยู่ในครรภ์ จึงไม่สามารถมองเห็นและสัมผัสได้ ทำให้คุณแม่ไม่สามารถรู้ว่าตอนนี้ลูกน้อยมีการเจริญเติบโตอย่างไรบ้าง ซึ่งเสียงหัวใจของทารกในครรภ์นั้นสามารถใช้ประเมินสุขภาพของลูกน้อยได้
โดยเฉพาะคุณแม่มือใหม่ที่ไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน แต่คุณแม่สงสัยไหมว่าทำไมต้องมีการฟังเสียงหัวใจทารกในครรภ์ อัตราการเต้นของหัวใจทารกในครรภ์ปกติควรอยู่ที่เท่าไหร่ และหากได้เร็วเกินไปมีอันตรายไหม การฟังเสียงหัวใจทารกในครรภ์ใช้เครื่องมือไหนได้บ้าง ถ้าไม่ได้ยินเสียงการเต้นหัวใจของทารกในครรภ์ เกิดจากอะไร มีอันตรายหรือไม่ เราจะพาทุกคนมาหาคำตอบ
ทำไมต้องมีการฟังเสียงหัวใจทารกในครรภ์
การฟังเสียงหัวใจของทารกในครรภ์ ช่วยให้แพทย์หรือคุณพ่อคุณแม่รับรู้พัฒนาการของลูกน้อย ดูว่ายังแข็งแรงอยู่หรือไม่ นอกจากนั้นอัตราการเต้นของหัวใจทารกในครรภ์เต้นช้าหรือเร็ว อาจมีนัยยะแอบแฝงอยู่อาจพบความผิดปกติเกิดขึ้น สิ่งเหล่านี้มีความสัมพันธ์กับพัฒนาการและการเจริญเติบโต รวมถึงสุขภาพของลูกน้อยโดยตรงอีกด้วย
ซึ่งปกติแพทย์จะใช้เครื่องมือเพื่อตรวจหาทารกในครรภ์และฟังเสียงหัวใจของทารกในครรภ์ว่ายังมีชีวิตอยู่หรือไม่ แต่ปัจจุบันคุณแม่สามารถฟังเสียงหัวใจของลูกได้เองที่บ้าน โดยการใช้เครื่องฟังเสียงหัวใจทารก (Fetal Doppler)
📌 คลิกอ่านเพิ่มเติม : การใช้งานเครื่องฟังเสียงหัวใจทารกอันตรายไหม ? จำเป็นต้องอ่านก่อนซื้อไปใช้งาน
เสียงหัวใจทารกในครรภ์ปกติเท่าไหร่ ?
อัตราการเต้นของหัวใจทารกในครรภ์โดยปกติแล้วจะอยู่ที่ 120- 160 ครั้งต่อนาที หัวใจเป็นอวัยวะสำคัญมีหน้าที่ในระบบการไหลเวียนเลือดตลอดระยะเวลา 9 เดือนที่คุณแม่อุ้มท้อง เสียง เสียงหัวใจของทารกที่คุณพ่อคุณแม่จะได้ยินเสียงดัง ก๊อบ ก๊อบ ก๊อบ คล้ายเสียงม้าวิ่ง ซึ่งจะสามารถฟังได้ด้วยอุปกรณ์การแพทย์อย่างเครื่องฟังเสียงหัวใจทารก
หัวใจทารกในครรภ์เต้นเร็ว ถือว่าอันตรายไหม ?
การที่หัวใจของทารกเต้นเร็วถือเป็นเรื่องปกติ โดยในระยะแรกอัตราการเต้นของหัวใจของทารกจะอยู่ที่ประมาณ 160 ครั้งต่อนาที ซึ่งไม่ใช่เรื่องน่ากังวล เพราะหัวใจทารกในครรภ์จะเต้นเร็วกว่าผู้ใหญ่ และจะเต้นช้าลงเมื่ออายุครรภ์เพิ่มขึ้น เมื่อทารกมีอายุครรภ์ประมาณ 12 สัปดาห์อัตราการเต้นของหัวใจจะค่อยๆ ลดลงเหลือประมาณ 120-160 ครั้งต่อนาที จนไปถึงกำหนดคลอด แต่ถ้าทารกในครรภ์มีอัตราการเต้นของหัวใจมากกว่า 160 ครั้งต่อนาที หรือต่ำกว่า 120 ครั้งต่อนาที จะถือเป็นเรื่องผิดปกติ ซึ่งเป็นภาวะที่หัวใจเต้นไม่สม่ำเสมอหรืออาจอยู่ในภาวะขาดออกซิเจน
วิธีฟังเสียงหัวใจทารกในครรภ์ มีวิธีอะไรบ้าง
1.เครื่องฟังเสียงหัวใจทารก (Fetal Doppler)
เครื่องฟังเสียงหัวใจทารกในครรภ์ (Fetal Doppler) สำหรับใช้ฟังเสียงหัวใจของทารกในครรภ์ประมาณสัปดาห์ที่ 13-28 ได้เป็นอัลตร้าซาวด์ชนิดพกพา อุปกรณ์ทันสมัยใช้งานง่ายพกพาสะดวก หลักการทำงานคือใช้คลื่นเสียงเพื่อตรวจจับการเต้นของหัวใจทารกในครรภ์และตรวจจับการเปลี่ยนแปลงการเคลื่อนไหวของทารกในครรภ์หลังจากนั้นจึงแปลออกมาเป็นเสียง
2.พินาร์ด ฮอร์น (Pinard Horn)
เครื่องมือทางการแพทย์แบบเก่า ที่ไม่ได้ใช้ไฟฟ้า อาจทำจากโลหะหรือไม้ รูปทรงคล้ายทรัมเป็ตเครื่องมือที่ใช้ฟังเสียงอัตราการเต้นหัวใจของทารกในครรภ์ประมาณสัปดาห์ที่ 18-20 โดยเครื่องมือจะส่งสัญญาณเสียงจากหัวใจของทารกในครรภ์ไปยังหูผู้ฟังช่วยประเมินอัตราการเต้นหัวใจของทารกในครรภ์ได้เป็นระยะๆ เครื่องมือนี้นิยมใช้ในระหว่างการคลอดเพื่อตรวจหาภาวะหัวใจล้มเหลว
3.หูฟังทางการแพทย์ (Stethoscope)
เครื่องมือนี้เป็นหูฟังทางการแพทย์ที่เรามักจะพบเห็นกันบ่อยๆ ใช้เพื่อขยายเสียงภายในโดยเฉพาะหัวใจและปอด ลักษณะเป็นหูฟังสองข้างมีท่อต่อจากปากแตร ใช้วางลงไปบนหน้าอกหรือหน้าท้องเพื่อฟังเสียงสามารถใช้ฟังเสียงอัตราการเต้นของหัวใจทารกในครรภ์ได้ประมาณสัปดาห์ที่ 18-20 อย่างไรก็ตามขึ้นอยู่กับตำแหน่งของทารกและตำแหน่งของรกด้วย
บทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับหูฟังทางการแพทย์ :
📌 Stethoscope (สเต็ทโตสโคป) คืออะไร หูฟังแพทย์ มีหลักการทำงานของอย่างไรบ้าง ?
📌 4 วิธีใช้หูฟังทางการแพทย์ หรือ หูฟังสเต็ทโตสโคป (Stethoscope) เพื่อฟังเสียงปอดและหัวใจ
4.เฟโตสโคป (Fetoscope)
เครื่องมือนี้ผสมผสานระหว่าง Pinard Horn & Stethoscope อาจทำจากพลาสติกหรือโลหะ เครื่องมือที่ใช้แยกเสียงได้ 2 แบบคือ แบบหูฟังและแบบส่งลวดผ่านเข้าไปในมดลูก เพื่อให้ยึดติดกับศีรษะของทารกในครรภ์และเชื่อมต่อเข้ากับจอภาพเพื่อฟังเสียงของหัวใจ โดยปกติแล้วคุณหมอจะใช้ฟังอัตราการเต้นหัวใจของทารกในครรภ์ประมาณสัปดาห์ที่ 12
ตำแหน่งสำหรับฟังเสียงหัวใจเด็กในครรภ์ มีบริเวณไหนบ้าง ?
- ในระยะ 16-24 สัปดาห์ ตำแหน่งหัวใจของทารกจะอยู่ห่างจากสะดือคุณแม่ไปทางด้านล่างประมาณ 4-5 นิ้ว
- ในระยะ 24-32 สัปดาห์ตำแหน่งหัวใจจะอยู่รอบสะดือของคุณแม่ไปทางด้านข้างและอยู่บริเวณด้านล่างเล็กน้อย
- ระยะ 32-40 สัปดาห์ทารกมีขนาดตัวใหญ่ขึ้นตำแหน่งหัวใจจะอยู่รอบสะดือของคุณแม่ไปทางด้านบนและด้านล่างเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับขนาดตัวของทารกและตำแหน่งการอยู่ด้วย
อายุครรภ์กี่สัปดาห์ ? ถึงจะได้ยินเสียงหัวใจลูก
โดยปกติเราจะได้ยินเสียงอัตราการเต้นหัวใจของทารกในครรภ์อายุประมาณ 6 สัปดาห์ขึ้นไปและเมื่อทารกมีอายุครรภ์ประมาณสัปดาห์ที่ 10-12 หัวใจของทารกจะเริ่มขยายกลายเป็นโครงสร้างที่สมบูรณ์ อย่างไรก็ตามคุณแม่บางท่านอาจกังวลเพราะไม่ได้ยินเสียงหัวใจของลูกน้อยในท้อง อย่างแรกเลยต้องมองหาอุปกรณ์ที่ใช้ฟังเสียงลูกในท้อง เลือกอุปกรณ์ที่ทันสมัยมีความแม่นยำ เช่น เครื่องฟังเสียงหัวใจทารก (Fetal Doppler) เป็นแบบพกพาสามารถใช้งานที่บ้านได้
การที่ไม่ได้ยินเสียงทารกในครรภ์ เกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้าง
การที่คุณแม่ไม่ได้ยินเสียงทารกในครรภ์ นั้นอาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งเป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้ สำหรับสาเหตุที่ทำให้ไม่ได้ยินเสียงหัวใจทารกในครรภ์ จะมีดังนี้
1.อายุครรภ์ไม่ถึง 12 สัปดาห์
สำหรับคุณแม่ที่มีอายุครรภ์ยังไม่ถึง 12 สัปดาห์แล้วลองใช้เครื่อง Doppler เพื่อฟังเสียงหัวใจของทารกแต่ไม่ได้ยินเสียงไม่ต้องกังวลเพราะอาจได้ยินเสียงไม่ชัดหรือยังเร็วเกินไป ยกเว้นแต่อายุครรภ์ที่มากกว่า 12 สัปดาห์ขึ้นไปแล้วไม่ได้ยินเสียงการเต้นหัวใจของทารกคุณหมออาจใช้วิธีอัลตร้าซาวด์และใช้ความถี่สูงกว่าแทน
2.ตำแหน่งการฟังไม่ตรง
คุณแม่มักเลือกใช้เครื่องฟังเสียงหัวใจทารก เพื่อฟังเสียงการเต้นหัวใจของทารกในครรภ์เพราะหาซื้อได้ง่าย ราคาไม่สูงและพกพาสะดวกแต่อาจไม่ได้ยินเสียงหัวใจเต้นเนื่องจากตำแหน่งไม่ตรง เวลาที่ลูกน้อยอยู่ในท้องพวกเขาจะอยู่ในมดลูก ทารกอาจมีการพลิกตัวไปมาทำให้หาตำแหน่งของทารกไม่เจอ
3.อายุครรภ์คลาดเคลื่อน
คุณแม่ที่มีอายุครรภ์ 12 สัปดาห์แล้วแต่ยังไม่ได้ยินเสียงหัวใจของทารกเลยบางครั้งอาจคำนวณวันผิดหรืออายุครรภ์คลาดเคลื่อนได้ อย่างเช่น คุณแม่เข้าใจว่าอายุครรภ์ 12 สัปดาห์แล้วแต่จริงๆ อายุครรภ์เพียงแค่ 10 สัปดาห์เท่านั้นซึ่งอายุครรภ์น้อยก็มีโอกาสที่จะได้ยินเสียงหัวใจของลูกยากขึ้น
4.ภาวะแท้งบุตร
การไม่ได้ยินเสียงหัวใจของทารกในครรภ์ อาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงภาวะแท้งบุตรได้แต่คุณแม่อย่าเพิ่งฟันธงหรือตกใจจนไม่เป็นอันทำอะไร ควรให้แพทย์ทำการตรวจด้านอื่นๆ เพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัด
5.มีปัญหาน้ำหนักเกิน
ในกรณีที่คุณแม่มีปัญหาน้ำหนักเกิน ก็อาจทำให้ใช้เครื่องมือจับเสียงหัวใจของลูกน้อยได้ยากขึ้น รวมถึงคุณแม่ที่มีมดลูกหงายก็อาจทำให้ได้ยินเสียงหัวใจลูกยากด้วยเช่นกัน
สำหรับคุณแม่แล้ว เสียงหัวใจทารกในครรภ์ นั้นเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงพัฒนาการและสุขภาพของลูกน้อย ซึ่งการฟังเสียงหัวใจทารกในครรภ์จะทำให้รู้ว่าลูกน้อยแข็งแรงดี หรือมีความผิดปกติอะไรเกิดหรือเปล่า แต่ในบางกรณีก็อาจไม่ได้ยินเสียงหัวใจของทารกในครรภ์ ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ดังนั้นในการฟังเสียงหัวใจลูก คุณแม่จึงควรทำอย่างระมัดระวังและถูกวิธีด้วย
สำหรับคุณแม่ที่กำลังมองหาเครื่องฟังเสียงหัวใจทารกในครรภ์มาใช้งานที่บ้าน และต้องการเครื่อง Fetal Doppler ที่มีคุณภาพดี ได้มาตรฐาน ในราคาที่ไม่แพง ก็สามารถสั่งซื้อผ่านทางออนไลน์ได้เลยที่ Rakmor.com
ขอใบเสนอราคาด่วน...คลิก