อุปกรณ์ให้ออกซิเจนทางจมูก
อุปกรณ์ให้ออกซิเจนทางจมูก เป็นอุปกรณ์ที่ใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ทางการแพทย์อย่างเครื่องผลิตออกซิเจนหรือถังออกซิเจน ในการนำส่งออกซิเจนจากเครื่องเข้าสู่ร่างกายของผู้ป่วยผ่านทางจมูกแล้วให้ผู้ป่วยหายใจเอาออกซิเจนเข้าไป เพื่อเพิ่มปริมาณออกซิเจนในเลือดของผู้ป่วยให้กลับสู่ภาวะปกติ
ซึ่งอุปกรณ์ให้ออกซิเจนทางจมูกนั้นจะมีให้เลือกใช้งานอยู่ 3 รูปแบบ คือ สายให้ออกซิเจนทางจมูก หน้ากากให้ออกซิเจน และหน้ากากให้ออกซิเจนแบบมีถุง โดยในการเลือกใช้อุปกรณ์ให้ออกซิเจนทางจมูกแต่ละแบบจะขึ้นอยู่กับอาการและปริมาณความต้องการออกซิเจนของผู้ป่วยแต่ละคน เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพมากที่สุด
เลือกอุปกรณ์ให้ออกซิเจน แบบไหนดีที่สุด
1.สายให้ออกซิเจนทางจมูก Nasal Cannula
Nasal Cannula เป็นอุปกรณ์ให้ออกซิเจนผ่านทางจมูก โดยจะมีลักษณะเป็นสายที่ต้องสอดเข้าไปทางช่องจมูกเล็กน้อยลึกประมาณ 1 เซนติเมตร ซึ่งจะเหมาะกับผู้ป่วยที่ต้องการความเข้มข้นของออกซิเจนที่ไม่สูงนัก เนื่องจากการให้ออกซิเจนแบบสายจะมีอัตราการไหลของออกซิเจนได้มากสุด 1 – 6 ลิตร/นาที ทำให้ไม่เหมาะกับผู้ป่วยที่ต้องการออกซิเจนในปริมาณมากหรือต้องให้ออกซิเจนเป็นเวลานาน แต่ข้อดีของสายให้ออกซิเจนก็มีหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการมีราคาที่ถูกกว่าอุปกรณ์แบบอื่น ผู้ป่วยสามารถใส่ได้ง่ายและไม่ค่อยรู้สึกอึดอัด รวมถึงยังสามารถใส่ขณะทานอาหารได้อีกด้วย
2.หน้ากากให้ออกซิเจน Oxygen Mask
Oxygen Mask เป็นอุปกรณ์ให้ออกซิเจนที่มีลักษณะเป็นหน้ากาก ที่ต้องครอบบริเวณปากและจมูกให้สนิทก่อนใช้งาน เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับออกซิเจนอย่างเต็มที่ โดยวิธีนี้จะเหมาะสำหรับผู้ป่วยที่ต้องการความเข้มข้นของออกซิเจนในระดับปานกลางเป็นระยะเวลาสั้นๆ เช่น การให้ออกซิเจนขณะการผ่าตัด หรือให้ออกซิเจนขณะเคลื่อนย้ายผู้ป่วย เป็นต้น
ซึ่งหน้ากากให้ออกซิเจนแบบนี้จะสามารถให้ออกซิเจนที่มีอัตราการไหลได้ 5 – 8 ลิตร/นาที ในการใช้งานจะต้องระวังไม่ให้หน้ากากรัดแน่นจนเกินไป เพราะอาจทำให้รู้สึกเจ็บหรือเกิดแผลกดทับได้ นอกจากนี้ก็ยังไม่ควรเปิดให้มีออกซิเจนน้อยกว่า 5 ลิตร/นาที เพื่อป้องกันไม่ให้มีอากาศที่หายใจออกค้างอยู่ในหน้ากาก
3.หน้ากากให้ออกซิเจนแบบมีถุง Oxygen Re breathing Mask with Bag
สำหรับหน้ากากให้ออกซิเจนแบบมีถุง จะเป็นอุปกรณ์ให้ออกซิเจนทางจมูกที่มีลักษณะเหมือนกับ Oxygen Mask หรือหน้ากากให้ออกซิเจนแบบธรรมดาเลย เพียงแค่มีถุงลมเพิ่มเข้ามา เพื่อใช้ในการเก็บออกซิเจนเอาไว้ ซึ่งจะเป็นการช่วยเพิ่มความเข้มข้นของออกซิเจนก่อนหายใจเข้าไปได้
จึงทำให้หน้ากากออกซิเจนแบบมีถุงนั้นเหมาะกับการให้ออกซิเจนที่มีความเข้มข้นสูง และสามารถเปิดอัตราการไหลของออกซิเจนได้ 6 – 10 ลิตร/นาที โดยในการใช้งานจะต้องครอบหน้ากากให้สนิท แล้วเปิดออกซิเจนเพื่อให้ถุงพองก็จะใช้งานได้ และไม่ควรเปิดให้ออกซิเจนมีอัตราการไหลต่ำกว่า 6 ลิตร/นาที เพื่อไม่ให้อากาศตกค้างในหน้ากาก และช่วยให้ผู้ป่วยหายใจได้สบายขึ้น
ทำความรู้จัก Oxygen Cannula คืออะไร ?
Oxygen Cannula คือ สายหรือท่อให้ออกซิเจนทางจมูก ซึ่งจะมีลักษณะคล้ายกับ Nasal Cannula ที่ใช้วิธีการสอดสายเข้าไปทางช่องจมูกเพื่อให้ออกซิเจน โดยปลายด้านหนึ่งของสายจะเชื่อมต่อกับเครื่องผลิตออกซิเจนหรือถังออกซิเจน วิธีนี้เป็นวิธีที่สามารถทำได้ง่ายที่สุด รวมถึงยังใส่สบายและอึดอัดน้อยกว่าการใช้อุปกรณ์ให้ออกซิเจนรูปแบบอื่น จึงมักนิยมใช้ให้ออกซิเจนกับผู้ป่วยที่ไม่ได้มีอาการหนัก และใช้สำหรับบำบัดผู้ป่วยที่พักรักษาตัวที่บ้าน แต่ถึงอย่างนั้นสายออกซิเจนรูปแบบนี้ก็สามารถเลื่อนหลุดได้ง่าย และหากเปิดออกซิเจนแรงก็อาจจะทำให้จมูกระคายเคืองหรืออักเสบได้
ทำความรู้จักเครื่องผลิตออกซิเจนที่ใช้งานร่วมกับสายแคนนูล่าได้ที่นี่ : เครื่องผลิตออกซิเจน คืออะไร มีกี่ประเภท มีหลักการทำงานอย่างไรบ้าง
การใช้สายให้ออกซิเจนทางจมูก ดีอย่างไร
- การใส่สายออกซิเจนทางจมูกมีรูปแบบการใช้งานที่ง่าย ไม่ยุ่งยาก
- การสวมใส่สายออกซิเจนทางจมูกจะอึดอัดน้อยกว่าอุปกรณ์ให้ออกซิจนแบบอื่น
- สายออกซิเจนทางจมูกเหมาะสำหรับผู้ป่วยที่ต้องการออกซิเจนในปริมาณที่ไม่มากนัก
- สายออกซิเจนทางจมูกราคาถูกกว่าอุปกรณ์ให้ออกซิเจนแบบอื่น
- สามารถใสสายให้ออกซิเจนขณะทานอาหารหรือดื่มน้ำได้ โดยไม่ต้องถอดออก
- สวมใส่สายออกซิเจนผู้ป่วยแล้วจะรู้สึกเจ็บน้อย และเกิดแผลกดทับได้ยาก
วิธีใช้สายออกซิเจนทางจมูก Oxygen Cannula สำหรับผู้ป่วย
1.เตรียมสายให้ออกซิเจนทางจมูก และอุปกรณ์ต่างๆ ให้พร้อม
2.ต่อสายออกซิเจนเข้ากับเครื่องผลิตออกซิเจนหรือถังออกซิเจน
3.ใส่สายออกซิเจนเข้าไปในจมูกลึกประมาณ 1 เซนติเมตร และให้ปลายโค้งชี้ไปทางด้านหลังของจมูก
4.เปิด Flow meter ให้มีอัตราการไหลของออกซิเจนตามที่แพทย์กำหนด
5.นำสายออกซิเจนไปพันไว้รอบศีรษะ ผ่านใบหูทั้งสองข้างไปทางด้านหลังและรัดให้พอดี ไม่ควรรัดแน่นจนเกินไป
ข้อควรระวังเมื่อใช้อุปกรณ์ให้ออกซิเจนทางจมูก
- ไม่ควรเปิดเครื่องผลิตออกซิเจนให้มีอัตราการไหลของออกซิเจนสูงเกินไป เพราะอาจทำให้รู้สึกแสบและระคายเคืองจมูกได้
- ควรใส่สายออกซิเจนให้ถูกทาง และสวมหน้ากากให้สนิทกับหน้า
- ควรเปลี่ยนสายออกซิเจนที่ใช้แล้วทุก 24 ชั่วโมง
- ระวังไม่ให้อุปกรณ์เลื่อนหลุด หรือเกิดการอุดตัน เพราะจะทำให้ผู้ป่วยขาดออกซิเจนได้
- ไม่ควรใส่อุปกรณ์ให้ออกซิเจนแน่นจนเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดแผลกดทับบริเวณผิวหนังได้
ในการเลือกใช้งาน อุปกรณ์ให้ออกซิเจนทางจมูก นอกจากจะคำนึงถึงลักษณะการใช้งาน คุณสมบัติ และความเหมาะสมกับอาการของผู้ป่วยแล้ว ผู้ดูแลหรือผู้ป่วยเองยังควรจะต้องศึกษาวิธีการใช้งาน และข้อควรระวังของอุปกรณ์แต่ละแบบด้วย เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ป่วยได้รับออกซิเจนในปริมาณที่เพียงพอ และช่วยลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บจากการใช้งานอุปกรณ์อย่างผิดวิธีอีกด้วย
ซึ่งท่านสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับทางเจ้าหน้าที่ RAKMOR เกี่ยวกับการเลือกสายให้ออกซิเจนทางจมูก รวมถึงการใช้งานคู่กับเครื่องผลิตออกซิจนเจนได้ง่ายๆ เราพร้อมให้คำแนะนำที่ดีและเหมาะสมที่สุดเสมอ 😉 สุดท้ายนี้ถ้าต้องการเลือกซื้อสายให้ออกซิเจนทางจมูกก็ควรเลือกซื้อจากร้านขายอุปกรณ์การแพทย์ที่มีความน่าเชื่อถือเท่านั้น และควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนการตัดสินใจใช้งานด้วย ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยนั่นเองค่ะ
– – – – – – –
ช่องทางติดต่อทั้งหมด : https://rakmor.com/contact-us/
โทรติดต่อ : 062-696-8628
Line@ : @Rakmor
FB : https://www.facebook.com/Rakmormedical