การใช้งาน “ เครื่องวัดไข้อินฟาเรด ” เริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในชีวิตประจำวันของเรา โดยเฉพาะในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 ทำให้ก่อนที่จะเข้าไปยังสถานที่ต่างๆ ทุกคนจำเป็นจะต้องวัดอุณหภูมิร่างกายกันจนเป็นเรื่องปกติไปแล้ว ซึ่งเครื่องวัดไข้หรือที่วัดอุณหภูมิที่นิยมนำมาใช้งานมากที่สุด จะเป็นเครื่องวัดไข้แบบอินฟาเรด เนื่องจากเป็นเครื่องวัดไข้ที่ไม่ต้องสัมผัสกับผิวหนังโดยตรง แต่จะใช้การนำเครื่องไปจ่อบริเวณหน้าผากให้มีระยะห่างที่เหมาะสม เพียงเท่านี้เครื่องก็จะสามารถวัดอุณหภูมิของร่างกายออกมาได้แล้ว แถมยังสามารถวัดได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย
วิธีเลือกซื้อเครื่องวัดอุณหภูมิร่างกาย ยี่ห้อไหนดี
1.เลือกซื้อเครื่องที่มีช่วงระยะห่างในการวัดอุณหภูมิให้เหมาะสมกับการใช้งาน โดยหากเป็นการซื้อใช้เอง สามารถเลือกเครื่องที่มีระยะห่างน้อยได้ แต่หากนำไปใช้กับคนจำนวนมากในที่สาธรารณะ อาจจะต้องใช้เครื่องที่มีระยะห่างมากหน่อย
2.เลือกซื้อจากโหมดการวัดอุณหภูมิ เนื่องจากเครื่องวัดอุณหภูมิอินฟาเรดบางรุ่น สามารถวัดได้ทั้งอุณหภูมิร่างกายและอุณหภูมิวัตถุ หรือบางรุ่นก็อาจวัดได้แค่อย่างเดียว จึงควรเลือกใช้ให้ดี เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างถูกต้อง
3.เลือกเครื่องวัดอุณหภูมิที่สามารถจับถือได้ง่ายและถนัดมือ เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างสะดวก และมีความมั่นคงขณะถือ ซึ่งจะช่วยลดความคลาดเคลื่อนในการวัดอุณหภูมิได้
4.เลือกเครื่องที่มีฟังก์ชั่นชดเชยอุณหภูมิโดยรอบ เนื่องจากเครื่องวัดไข้อินฟาเรดจะทำการวัดอุณหภูมิที่บริเวณพื้นผิว ซึ่งมีโอกาสสูงจะได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศหรือสภาพแวดล้อมภายนอก การมีฟังก์ชั่นชดเชยอุณหภูมิโดยรอบ ก็จะช่วยให้การวัดอุณหภูมิมีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น
📄 คลิกอ่านหัวข้อการวัดไข้เพิ่มเติม
เครื่องวัดไข้อินฟาเรด ยี่ห้อไหนดี
1.เครื่องวัดไข้อินฟาเรด Jumper รุ่น JPD-FR202
เครื่องวัดไข้อินฟาเรด Jumper รุ่นนี้สามารถใช้วัดได้ทั้งอุณหภูมิร่างกาย และอุณหภูมิของวัตถุ โดยไม่จำเป็นต้องสัมผัสโดยตรง สามารถใช้วัดอุณหภูมิได้อย่างรวดเร็วเพียงแค่ 1 วินาที และให้ค่าที่มีความแม่นยำ พร้อมแสดงผลบนหน้าจอเป็นตัวเลขแบบดิจิตอล
คุณสมบัติ
- มีช่วงระยะห่างในการวัดอุณหภูมิ 1 – 5 ซม.
- มีระบบแจ้งเตือนเมื่ออุณหภูมิสูงกว่าค่าที่กำหนดไว้
- มีระบบปิดเครื่องอัตโนมัติเมื่อไม่ใช้งาน
- วัดอุณหภูมิร่างกายได้ตั้งแต่ 0 – 42.2 องศา
- จัดเก็บข้อมูลการวัดได้ 20 ค่า
- แสดงผลได้ทั้งหน่วยองศาเซลเซียส และองศาฟาเรนไฮต์
2.เครื่องวัดไข้ทางหน้าผาก Yuwell รุ่น YT-1
เป็นเครื่องวัดอุณหภูมิอินฟาเรด ที่ใช้การวัดบริเวณหน้าผาก และสามารถวัดได้ในระยะใกล้ตั้งแต่ 0 – 5 ซม. เหมาะสำหรับการนำมาใช้คัดกรองคนทั่วไป หรือจะนำไปใช้งานเองที่บ้านก็ได้เช่นกัน เนื่องจากตัวเครื่องมีขนาดกะทัดรัด และจับถือได้อย่างสะดวก รวมถึงยังมีความละเอียดและความแม่นยำในการวัด
คุณสมบัติ
- มีช่วงระยะห่างในการวัดอุณหภูมิ 0 – 5 ซม.
- มีระบบแจ้งเตือนเมื่อระยะห่างไม่ได้ตามกำหนด
- มีเสียงและสั่นแจ้งเตือน เมื่อวัดอุณหภูมิเสร็จ
- วัดอุณหภูมิร่างกายได้ตั้งแต่ 0 – 42.0 องศา
- แสดงผลได้ทั้งหน่วยองศาเซลเซียส และองศาฟาเรนไฮต์
- แจ้งเตือนเมื่ออุณหภูมิสูงกว่า 6 องศา
3.เครื่องวัดไข้ทางหู Omron รุ่น TH839S
เครื่องวัดไข้อินฟาเรดที่ใช้วิธีการวัดอุณหภูมิทางหู ด้วยการสอดปลายเครื่องวัดไข้เข้าไปในหู แต่จะไม่ได้สัมผัสกับผิวหนังโดยตรง เนื่องจากจะวัดอุณหภูมิจากคลื่นความร้อน ซึ่งรุ่นนี้ยังสามารถใช้วัดอุณหภูมิของวัตถุและสภาพแวดล้อมได้ โดยตัวเครื่องจะมีขนาดกะทัดรัด สามารถจับถือและใช้งานได้ง่าย
คุณสมบัติ
- มีระบบเตือนเมื่ออุณหภูมิสูงกว่าหรือเท่ากับ 5 องศา
- ใช้ระยะเวลาตรวจวัดเพียงแค่ 1 วินาที
- สามารถบันทึกข้อมูลการวัดได้ 9 ค่า
- ทำงานด้วยระบบอัตโนมัติ
- วัดอุณหภูมิได้ทั้งหน่วย และ
4.เครื่องวัดไข้ทางหู Riester รุ่น Ri-Thermo N
เครื่องวัดไข้ทางหูระบบอินฟาเรด นำเข้าจากประเทศเยอรมัน ผ่านการรับรองมาตรฐานและคุณภาพระดับสากล สามารถวัดอุณหภูมิได้อย่างแม่นยำในเวลาเพียงไม่กี่วินาที และแสดงผลบนหน้าจอ LCD ที่มีแสงพื้นหลัง ทำให้สามารถอ่านค่าได้อย่างชัดเจนแม้อยู่ในที่มืด
คุณสมบัติ
- มีน้ำหนักตัวเครื่องรวมแบตเตอรี่เพียง 53 กรัม
- ใช้ระยะเวลาตรวจวัดเพียงแค่ 1 – 2 วินาที
- สามารถบันทึกข้อมูลได้ 12 ค่า
- มีระบบปิดเครื่องอัตโนมัติเมื่อไม่ใช้งานเกิน 1 นาที
- แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้นานกว่า 1,000 ครั้ง
5.เครื่องวัดไข้ทางหูอินฟาเรด Beurer รุ่น FT58
เป็นเครื่องวัดไข้ทางหู ที่ทำงานด้วยระบบอินฟาเรดในการตรวจวัดคลื่นความร้อนของร่างกาย และยังใช้วัดอุณหภูมิของวัตถุหรืออุณหภูมิห้องได้อีกด้วย โดยจะสามารถวัดค่าได้อย่างแม่นยำ ตัวเครื่องถูกออกแบบมาให้ใช้งานง่าย และมีความแข็งแรงทนทาน รวมถึงยังแถมฝาครอบป้องกันเชื้อโรคมาให้ด้วย
คุณสมบัติ
- ตัวเครื่องมีน้ำหนัก 63 กรัม
- สามารถบันทึกค่าวัดได้ 10 ค่า
- มีเสียงเตือนเมื่อวัดอุณหภูมิเสร็จ
- มีระบบเตือนเมื่ออุณหภูมิสูงกว่า 5 องศา
- แจ้งเตือนเมื่อแบตเตอรี่ต่ำ
6.เครื่องวัดไข้หน้าผากอินฟาเรด Omron รุ่น MC-720
สำหรับรุ่นนี้จะเป็นเครื่องวัดไข้หน้าผากอินฟาเรด ที่ทำงานด้วยระบบอัตโนมัติ สามารถใช้วัดอุณหภูมิร่างกายได้โดยไม่ต้องสัมผัสกับผิวหนัง และใช้เวลาเพียง 1 วินาทีก็วัดเสร็จแล้ว หน้าจอมีไฟ Backlight จึงอ่านค่าได้สะดวกแม้ในที่มืด รวมถึงยังสามารถแสดงผลอุณหภูมิได้ทั้งหน่วยองศาเซลเซียส และหน่วยองศาฟาเรนไฮต์
คุณสมบัติ
- ใช้วัดอุณหภูมิหน้าผาก อุณหภูมิห้องและวัตถุได้
- สามารถปรับเป็นโหมดปิดเสียงได้
- สามารถบันทึกข้อมูลได้ 25 ค่า
- ถ่านใช้งานได้มากกว่า 2,500 ครั้ง
- วัดอุณหภูมิร่างกายได้ตั้งแต่ 0 – 42.2 องศา
7.เครื่องวัดไข้อินฟาเรด Jumper รุ่น JPD-FR200
เครื่องวัดไข้อินฟาเรดทางหน้าผาก ที่ถูกออกแบบตามหลักสรีระศาสตร์ สามารถจับถือได้อย่างกระฉับมือ โดยเครื่องจะมีโหมดวัดอุณหภูมิให้เลือกถึง 3 แบบ ทั้งการวัดอุณหภูมิร่างกาย สิ่งของ และสภาพแวดล้อม จึงสามารถรองรับการใช้งานได้อย่างหลากหลาย และเป็นเครื่องวัดไข้ที่ใช้ได้กับคนทุกเพศ ทุกวัย
คุณสมบัติ
- วัดอุณหภูมิร่างกายได้ตั้งแต่ 0 – 42.2 องศา
- สามารถบันทึกข้อมูลการวัดได้ 20 ค่า
- หน้าจอมีไฟ Backlight แสดงผลได้ในที่มือ
- ปิดเครื่องเองอัตโนมัติเมื่อไม่ใช้งานเกิน 30 วินาที
- มีระบบแจ้งเตือนเมื่ออุณหภูมิสูงกว่าค่าที่กำหนด
ถึงแม้ว่าการใช้ เครื่องวัดไข้อินฟาเรด ในการตรวจวัดอุณหภูมิของร่างกายนั้น จะเป็นวิธีที่ทำได้ง่ายและรวดเร็ว เนื่องจากสามารถทำการวัดอุณหภูมิได้ในเวลาเพียง 1 – 2 วินาที แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีข้อจำกัดในเรื่องของความแม่นยำอยู่บ้าง เช่น หากทำการตรวจอุณหภูมิในพื้นที่ที่มีอากาศร้อน หรือผู้ที่จะรับการตรวจวัดไปตากแดดมา ก็อาจจะส่งผลให้อุณหภูมิของร่างกายที่วัดได้มีความคลาดเคลื่อนได้ง่าย ดังนั้นจึงควรพิจารณาถึงปัจจัยแวดล้อมประกอบด้วย ซึ่งเครื่องวัดไข้อินฟาเรดอาจจะไม่ได้มีความแม่นยำมากเท่ากับเครื่องวัดไข้ชนิดอื่น แต่ก็เพียงพอแล้วสำหรับการคัดกรองและประเมินอาการในเบื้องต้น
– – – – – – –
ช่องทางติดต่อทั้งหมด : https://rakmor.com/contact-us/
โทรติดต่อ : 062-696-8628
Line@ : @Rakmor
FB : https://www.facebook.com/Rakmormedical