ค่าความดันปกติ
ในการวัดค่าความดันโลหิตด้วย ‘ เครื่องวัดความดัน ’ หลายๆ คนอาจจะเกิดคำถามที่ว่า ‘ ระดับค่าความดันปกติ ’ ค่าความดันโลหิตมาตรฐาน ควรอยู่ที่เท่าไหร่ ? ซึ่งเกณฑ์ระดับความดันปกติของแต่ละช่วงวัย เพศ อายุ ก็จะมีความแตกต่างกันไป ในบทความนี้เราลองไปดูกันว่า ค่าความดันโลหิตปกติ ( ค่า Blood Pressure : BP ) เกณฑ์ความดันปกติของแต่ละช่วงวัยจะอยู่ที่ระดับเท่าไหร่บ้าง ขอบอกเลยว่าเรามีเป็นตารางค่าความดันปกติแต่ละช่วงวัยมาให้ดูกันด้วย
ทำความรู้จักค่าความดันโลหิต ที่อยู่บนเครื่องวัดความดัน
ค่าความดันโลหิต คือ ค่าแรงดันในหลอดเลือดขณะที่หัวใจบีบตัวและคลายตัว ซึ่งเป็นค่าที่นิยมใช้ในการตรวจสุขภาพ และประเมินความเสี่ยงที่จะเกิดโรคต่างๆ ให้กับผู้ป่วย โดยทั่วไปแล้วหน้าจอแสดงผลของเครื่องวัดความดันโลหิตจะแสดงค่าวัดออกมาทั้งหมด 3 ค่า คือ
- SYS (Systolic) หมายถึง ค่าความดันในหลอดเลือดขณะที่หัวใจบีบตัว หรือเรียกว่า “ความดันตัวบน”
- DIA (Diastolic) หมายถึง ค่าความดันในหลอดเลือดขณะที่หัวใจคลายตัว หรือเรียกว่า “ความดันตัวล่าง”
- PUL (Pulse Rate) หมายถึง อัตราชีพจร หรือ อัตราการเต้นของหัวใจ
ค่าความดันปกติแต่ละช่วงวัย ควรอยู่ที่เท่าไหร่
เราลองไปดูค่าความดันโลหิตปกติในแต่ละช่วงกันเลยค่ะ โดยจะมีแบ่งเป็นทั้งค่าความดันปกติของผู้ใหญ่ ทั้งผู้ชาย ผู้หญิง เด็ก รวมถึงผู้สูงอายุ
- ค่าความดันปกติเด็กทารก : ไม่ควรเกิน 90/60 มิลลิเมตรปรอท
- ค่าวัดความดันปกติเด็กเล็ก อายุ 3-6 ปี : ไม่ควรเกิน 110/70 มิลลิเมตรปรอท
- ค่าปกติความดันโลหิตเด็กโต อายุ 7-17 ปี : ไม่ควรเกิน 120/80 มิลลิเมตรปรอท
- ค่าความดันปกติผู้ชาย : ไม่ควรเกิน 140/90 มิลลิเมตรปรอท
- ค่าความดันปกติผู้หญิง : ไม่ควรเกิน 140/90 มิลลิเมตรปรอท
- ค่าความดันโลหิตปกติในผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป : ไม่ควรเกิน 160/90 มิลลิเมตรปรอท
ตารางค่าความดันปกติแต่ละช่วงวัย
ค่าวัดความดันช่วงหัวใจคลายตัวไม่ปกติ
ช่วงภาวะหัวใจคลายตัวไม่ปกติ หมายถึง ภาวะที่หัวใจคลายตัวมากเกินไป ทำให้ไม่สามารถสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายได้เพียงพอ ซึ่งอาจทำให้ผู้ป่วยมีอาการหน้ามืด ใจสั่น หรืออ่อนเพลียได้ และที่สำคัญคือภาวะหัวใจคลายตัวไม่ปกตินั้นยังส่งผลให้ผู้ป่วยมีภาวะความดันโลหิตต่ำ โดยจะมีค่าอยู่ที่ 90/60 มิลลิเมตรปรอท ซึ่งเป็นภาวะที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย และสามารถหายเองได้ แต่หากมีอาการหนักก็ต้องรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษา
ตารางแสดงค่าความดันโลหิต ( หน่วยมิลลิเมตรปรอท )
ข้อมูลอ้างอิง : vejthani
วัดค่าความดันโลหิต ใช้เครื่องวัดความดันประเภทไหนดี
1.เครื่องวัดความดันแบบสอดแขน
เครื่องวัดความดันแบบสอดแขน จะมีลักษณะที่ใช้งานง่ายโดยไม่ต้องใช้ผ้าพันแขน หรือ Cuff ผู้ป่วยเพียงแค่สอดแขนเข้าไปในอุโมงค์วัดความดัน รวมถึงยังเป็นเครื่องที่ทำงานแบบอัตโนมัติ และสามารถพิมพ์ค่าที่วัดได้อีกด้วย
ข้อดี
- ใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยาก
- ประหยัดเวลาในการวัด
- สามารถใช้งานต่อเนื่องนานๆ ได้
ข้อเสีย
- ตัวเครื่องมีขนาดใหญ่ พกพาได้ลำบาก
- เครื่องมีราคาสูง
คลิกอ่านบทความเพิ่มเติม 📄
📌 7 เครื่องวัดความดันแบบสอดแขน ยี่ห้อไหนดีที่สุด ที่วัดความดันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปีล่าสุด
📌 แนะนำ วิธีใช้เครื่องวัดความดันแบบสอดแขน แบบที่ถูกต้อง เพื่อให้วัดค่าความดันได้อย่างแม่นยำมากที่สุด
2.เครื่องวัดความดันแบบปรอท
เครื่องวัดความดันแบบปรอท จะเป็นเครื่องวัดความดันที่ใช้ระบบ Manual และใช้หลักการแรงโน้มถ่วงของโลก โดยในการวัดความดันจะต้องอาศัยการอ่านค่าบนแท่งปรอท พร้อมกับฟังเสียงตุ้บขณะปล่อยลมออก รวมถึงยังต้องมีการจับชีพจรก่อนวัดอีกด้วย
ข้อดี
- สามารถวัดค่าได้อย่างแม่นยำ
- เครื่องมีความทนทาน
ข้อเสีย
- หากใช้ไม่ระวัง อาจได้รับอันตรายจากสารปรอทได้
- มีวิธีการใช้ค่อยข้างยุ่งยาก หลายขั้นตอน
- ไม่เหมาะกับผู้ที่สายตาและหูไม่ดี
คลิกอ่านเพิ่มเติม : วิธีใช้เครื่องวัดความดันแบบปรอท อย่างถูกต้อง มีขั้นตอนอย่างไร ให้วัดความดันได้แบบแม่นยำมากที่สุด
3.เครื่องวัดความดันแบบอัตโนมัติ
เครื่องวัดความดันแบบอัตโนมัติ หรือแบบดิจิตอล ถือเป็นเครื่องวัดความดันที่นิยมใช้งานมากที่สุด เพราะสามารถใช้งานได้ง่าย มีจอแสดงผลค่าความดันที่ชัดเจน รวมถึงมีเสียงพูดแนะนำวิธีการใช้งาน และบอกค่าที่วัดให้กับผู้ป่วยได้
ข้อดี
- เป็นระบบอัตโนมัติ สามารถใช้งานง่าย
- สามารถอ่านค่าความดันได้สะดวก
- บางรุ่นสามารถบันทึกข้อมูลการวัดได้
ข้อเสีย
- จำต้องใช้ไฟฟ้าในการวัดความดัน
- เครื่องมีราคาสูง
4.เครื่องวัดความดันแบบบีบมือ
เครื่องวัดความดันแบบมือบีบ เป็นเครื่องที่จะใช้การบีบลูกยาง เพื่อสูบลมเข้าไปในผ้าพันแขน ให้สามารถรัดแขนและทำการวัดความดันได้ โดยบางรุ่นสามารถเชื่อมต่อไปยังแอพพลิเคชั่นได้
ข้อดี
- สามารถวัดค่าได้ถูกต้องและแม่นยำ
- มีขนาดกะทัดรัด สามารถพกพาได้สะดวก
- ใช้งานง่าย
ข้อเสีย
- หากบีบลมไม่สม่ำเสมอ อาจทำให้ค่าคลาดเคลื่อนได้
- ไม่มีจอแสดงผลค่าที่วัดได้
5.เครื่องวัดความดันข้อมือ
เครื่องวัดความดันข้อมือ จะมีลักษณะการทำงานแบบเดียวกับเครื่องวัดความดันที่ต้นแขน ซึ่งจะทำงานโดยอัตโนมัติ พร้อมมีจอแสดงผลค่าการวัดมาให้ด้วยจึงสะดวกในการใช้งาน
ข้อดี
- มีขนาดเล็ก และน้ำหนักเบา
- สามารถพกพาได้สะดวก
- สามารถใช้งานได้ง่าย
ข้อเสีย
- ต้องใช้แบตเตอรี่จากถ่านในการวัด
- ไม่เหมาะกับการใช้งานหนักๆ
6.เครื่องวัดความดันแบบตั้งพื้น
เครื่องวัดความดันแบบตั้งพื้น เป็นเครื่องวัดความดันที่มีฐานด้านล่าง และมีล้อเลื่อน จึงทำให้สามารถใช้งานแบบตั้งพื้นได้ โดยไม่จำเป็นต้องใช้งานบนโต๊ะเท่านั้น รวมถึงยังสามารถเคลื่อยย้ายไปมาได้ง่ายอีกด้วย
ข้อดี
- สามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวก
- ทำงานโดยระบบอัตโนมัติ
- ใช้งานได้ทั้งกับเด็กและผู้ใหญ่
ข้อเสีย
- เครื่องมีราคาสูง
- ไม่ค่อยเหมาะกับการใช้งานที่บ้าน
สำหรับผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว และต้องได้รับการวัดความดันอย่างเสม่ำเสมอ จำเป็นต้องทราบถึง ค่าความดันปกติ ของตัวเองว่าอยู่ในช่วงไหน รวมถึงยังต้องศึกษาการอ่านค่าความดันให้ถูกต้องด้วย เพื่อที่เมื่อทำการวัดความดันแล้ว จะได้สามารถอ่านค่าต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการประเมินอาการ หรือความเสี่ยงที่จะเกิดโรคอื่นๆ ทำให้สามารถรักษาอาการได้อย่างทันเวลา
– – – – – – –
ช่องทางติดต่อทั้งหมด : https://rakmor.com/contact-us/
โทรติดต่อ : 062-696-8628
Line@ : @Rakmor
FB : https://www.facebook.com/Rakmormedical