ออกซิเจนบำบัด
ออกซิเจนบำบัด (Hyperbaric Oxygen Therapy) คือ วิธีการรักษาและฟื้นฟูร่างกายด้วยออกซิเจนบริสุทธิ์ 100% ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสูงและทันสมัย จึงสามารถรักษาโรคต่างๆ ได้ดี โดยเฉพาะโรคที่ก่อให้เกิดภาวะออกซิเจนในเลือดต่ำ อย่างโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง ปอดอักเสบ หรือโรคถุงลมโป่งพอง ซึ่งจะใช้หลักการส่งออกซิเจนบริสุทธิ์เข้าสู่ร่างกาย ผ่านระบบไหลเวียนเลือดไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกาย
ออกซิเจนบำบัด มีประโยชน์อย่างไรบ้าง
นอกจากการทำออกซิเจนบำบัดจะช่วยรักษาผู้ที่มีปัญหาขาดออกซิเจนหรือมีระดับออกซิเจนในเลือดต่ำ ให้สามารถหายใจได้อย่างสะดวกและรู้สึกสดชื่นมากขึ้นแล้ว การบำบัดด้วยออกซิเจนก็ยังมีประโยชน์อีกหลายอย่าง ดังนี้
- ช่วยลดความเครียด และลดความอ่อนล้าของร่างกาย
- ช่วยทำให้ผู้ที่มีความรู้สึกหงุดหงิดง่ายหรือมักกระวนกระวายใจง่าย รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น
- ช่วยกระตุ้นการสร้างสเต็มเซลล์ หรือเซลล์ที่ใช้ในการเจริญเติบโตทดแทนเซลล์ทั่วๆ ไปของร่างกายมนุษย์
- ช่วยในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรคบางชนิด
- ช่วยทำให้ร่างกายมีระบบไหลเวียนเลือดที่ดีและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
อาการแบบไหนบ้าง ที่ควรทำออกซิเจนบำบัด
สำหรับลักษณะอาการของผู้ที่ควรทำออกซิเจนบำบัดนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่มีออกซิเจนในเลือดต่ำ หรือผู้ที่มีปริมาณออกซิเจนในเม็ดเลือดแดงน้อยว่าหรือเท่ากับ 60 มิลลิเมตรปรอท จึงจำเป็นต้องมีการเพิ่มปริมาณออกซิเจนในร่างกายให้สูงขึ้น เพื่อป้องกันการเกิดอาการที่รุนแรง หรือกระตุ้นให้โรคประจำตัวกำเริบ นอกจากนี้ลักษณะอาการที่ควรทำออกซิเจนบำบัดก็ยังรวมไปถึงความผิดปกติของระบบทางเดินหายใจต่างๆ เช่น อาการหายใจเร็ว หายใจไม่อิ่ม มีอัตราการเต้นของหัวใจเร็วกว่าปกติ มีอาการไอ หายใจแล้วมีเสียงหวีด รู้สึกเหนื่อยและเหงื่อออกง่าย เป็นต้น
การบำบัดด้วยออกซิเจน เหมาะกับใคร
เนื่องจากการบำบัดด้วยออกซิเจนนั้นสามารถใช้ฟื้นฟูและรักษาได้หลากหลายโรค ไม่ใช่เพียงแค่โรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจเท่านั้น ซึ่งผู้ที่เหมาะและสามารถทำออกซิเจนบำบัดได้ จะมีดังนี้
- ผู้ที่มีความผิดปกติเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ เช่นโรคปอด โรคหอบหืด ฯลฯ
- ผู้ที่เป็นโรคซีสติกไฟโบรซีส
- ผู้ที่มีอาการปวดศีรษะไมเกรน
- ผู้ป่วยที่ต้องการรักษาโรคออฟฟิศซินโดรม
- ผู้ที่ต้องการผ่อนคลายความเครียด เพิ่มความสดชื่นให้ร่างกาย
การรักษาด้วยออกซิเจนบำบัด มีกี่ประเภท
1.การบำบัดด้วยเครื่องผลิตออกซิเจน
สำหรับการบำบัดด้วยเครื่องผลิตออกซิเจน (Oxygen Concentrator) เป็นวิธีการบำบัดด้วยออกซิเจนที่ผู้ป่วยจะได้รับออกซิเจนผ่านสายหรือท่อให้ออกซิเจน ที่เชื่อมต่อมาจากเครื่องผลิตออกซิเจน ซึ่งจะมีให้เลือกใช้งานทั้งหมด 2 แบบ คือแบบที่เป็นหน้ากากและแบบท่อที่ต่อเข้ากับหลอดลมโดยตรง โดยจุดเด่นของการบำบัดด้วยเครื่องผลิตออกซิเจน ก็คือสามารถปรับอัตราการไหลหรือความเข้มข้นของออกซิเจนได้ตามต้องการ จึงมีความยืดหยุ่นสูง
📌 คลิกอ่านเพิ่มเติม: วิธีใช้เครื่องผลิตออกซิเจนเองที่บ้าน ใช้งานง่ายด้วยตนเอง พร้อมคู่มือการใช้งาน
2.การบำบัดด้วยถังออกซิเจน
วิธีต่อมาคือ การทำออกซิเจนบำบัดด้วยถังออกซิเจน (Oxygen Tank) ซึ่งเป็นวิธีการบำบัดที่แพทย์มักจะใช้งานในกรณีที่ผู้ป่วยต้องการออกซิเจนในระยะเวลาไม่นาน หรือต้องการในระยะสั้นๆ เป็นเพียงการบรรเทาอาการหายใจไม่ออกจากการป่วยเท่านั้น อีกทั้งในระหว่างที่มีการทำออกซิเจนบำบัดด้วยถังออกซิเจน จำเป็นต้องทำการตรวจสอบปริมาณของออกซิเจนในถังอยู่เสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าออกซิเจนจะไม่หมดระหว่างการบำบัดรักษา
📌 คลิกอ่านเพิ่มเติม: ถังออกซิเจน ใช้ได้กี่ชั่วโมง? แต่ละขนาดใช้งานได้นานต่างกันเท่าไหร่ เลือกแบบไหนดีที่สุด
3.การบำบัดด้วยอุโมงค์ Hyperbaric Chamber
อุโมงค์ไฮเปอร์แบริก (Hyperbaric Chamber) เป็นการบำบัดด้วยออกซิเจนความดันสูง ที่ผู้ป่วยจะได้รับออกซิเจนในปริมาณที่มากกว่าปกติประมาณ 3-4 เท่า เป็นวิธีที่สามารถช่วยรักษาบาดแผลหรือการติดเชื้อรุนแรงได้เป็นอย่างดี ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้นการบำบัดออกซิเจนด้วยวิธีนี้ จำเป็นต้องมีความระมัดระวังอย่างมาก เพื่อไม่ให้ปริมาณออกซิเจนเข้าร่างกายมากเกินไป เพราะจะสามารถทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้นั่นเอง
ก่อนรักษาด้วยออกซิเจนบำบัด ต้องเตรียมตัวอย่างไร
หลังจากทราบว่าตัวเองมีโรคประจำ หรือมีอาการที่เข้าข่ายสามารถบำบัดด้วยออกซิเจนได้ สิ่งแรกที่ต้องทำเลยก็คือการปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อขอคำแนะนำและแนวทางในการบำบัดอย่างถูกต้อง โดยการเตรียมตัวให้พร้อมก่อนการทำออกซิเจนบำบัด จะเริ่มจากการตรวจเช็คสภาพร่างกาย รวมถึงต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับการบำบัดออกซิเจนด้วยว่ามีข้อดี ข้อควรระวังและผลข้างเคียงในการทำบำบัดออกซิเจนอย่างไรบ้าง เพื่อทำให้การบำบัดรักษามีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากที่สุดนั่นเอง
ข้อควรระวังในการบำบัดด้วยออกซิเจน
- ควรหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ หรือระวังบุคคลอื่นไม่ให้สูบบุหรี่ในขณะที่ทำการบำบัดด้วยออกซิเจน
- การทำการบำบัดด้วยออกซิเจนไม่เหมาะสำหรับ สตรีมีครรภ์ หรือผู้ที่มีปริมาณน้ำตาลในเลือดสูง
- ระวังอย่าให้มีปริมาณออกซิเจนในร่างกายมากเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดอาการบาดเจ็บที่หูชั้นกลาง เยื่อแก้วหูฉีก หรือปอดเกิดการยุบตัวได้
- ทำการเก็บอุปกรณ์ให้ออกซิเจนในบริเวณที่อากาศถ่ายเท่ได้ดี
- ควรเตรียมเครื่องดับเพลิงไว้ให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ
- หลีกเลี่ยงการใช้ของเหลวที่สามารถติดไฟได้ง่าย ในระหว่างที่กำลังทำการรักษาหรือบำบัดด้วยออกซิเจน
📌 คลิกอ่านเพิ่มเติม: แนะนำ 8 วิธีดูแลปอด ช่วยฟื้นฟูปอดให้แข็งแรง มีสุขภาพดี ห่างไกลโรคร้าย
ปัจจุบัน ออกซิเจนบำบัด ถือเป็นแนวทางการรักษาและฟื้นฟูร่างกายรูปแบบใหม่ ที่มีประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาสุขภาพและรักษาโรคต่างๆ โดยเฉพาะโรคที่มีปัญหาเกี่ยวกับปอดและระบบทางเดินหายใจ ซึ่งการบำบัดด้วยออกซิเจนจะช่วยบรรเทาอาการป่วย และช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้ดีขึ้น ผ่านการนำส่งออกซิเจนบริสุทธิ์ที่มีความเข้มข้นสูงเข้าสู่ร่างกาย แต่ถึงอย่างนั้นก็ควรทำภายใต้การดูแลและคำแนะนำของแพทย์ และระวังไม่ให้ร่างกายได้รับออกซิเจนในปริมาณที่มากจนเกินไป เพราะอาจจะก่อให้เกิดผลเสียต่อร่างกายได้
– – – – – – –
ช่องทางติดต่อทั้งหมด : https://rakmor.com/contact-us/
โทรติดต่อ : 062-696-8628
Line@ : @Rakmor
FB : https://www.facebook.com/Rakmormedical