รวม 10 วิธีการกระตุ้นพัฒนาการทารกในครรภ์ สำหรับคุณพ่อคุณแม่ ช่วยให้ลูกแข็งแรง และเจริญเติบโตได้ดี

การกระตุ้นพัฒนาการทารกในครรภ์ทำอย่างไร มีวิธีอะไรบ้าง

การกระตุ้นพัฒนาการทารกในครรภ์

การกระตุ้นพัฒนาการทารกในครรภ์ เป็นกระบวนสำคัญที่ช่วยกระตุ้นพัฒนาการ และช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของทารกที่อยู่ในครรภ์ โดยการวิจัยได้ชี้ให้เห็นว่า การกระตุ้นพัฒนาการของทารกในครรภ์ตั้งแต่เนิ่นๆ นั้น จะช่วยเสริมสร้างพัฒนาการที่ดีให้กับทารก ทำให้ทารกมีสุขภาพดี มีความสามารถในการรับรู้ นอกจากนี้การกระตุ้นพัฒนาการที่เพียงพอ ก็ยังช่วยเสริมพัฒนาการของอวัยวะต่างๆ ช่วยให้ร่างกายของทารกแข็งแรง และยังช่วยส่งเสริมภาวะด้านอารมณ์ที่เหมาะสมให้กับเด็กทารกหลังคลอดอีกด้วย 

การกระตุ้นพัฒนาการทารกในครรภ์ ควรเริ่มทำเมื่อไหร่ ?

พัฒนาการของทารกในครรภ์จะเริ่มตั้งแต่ที่ทารกยังเป็นตัวอ่อน โดยทารกจะเริ่มสร้างอวัยวะและสร้างเซลล์สมองตลอดเวลาที่อยู่ในครรภ์ และเมื่อเวลาผ่านไป ระบบประสาทของเด็กทารกจะเริ่มเชื่อมโยงกับส่วนต่างๆ และอวัยวะต่างๆของร่างกาย ดังนั้นการกระตุ้นพัฒนาการทารกในครรภ์ จึงเริ่มทำได้ตลอดเวลา ตั้งแต่ตอนที่ทารกยังเป็นตัวอ่อน และยังทำได้ตลอดระยะเวลาที่ทารกยังอยู่ในครรภ์ 

10 วิธีกระตุ้นพัฒนาการทารกในครรภ์ มีอะไรบ้าง

1.ทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง 

การบริโภคอาหารที่อุดมด้วยคุณค่าทางโภชนาการสูง เป็นสิ่งจำเป็นต่อการกระตุ้นพัฒนาการของทารกในครรภ์ โดยอาหารที่ช่วยกระตุ้นพัฒนาการของทารกในครรภ์ได้ จะมีตั้งแต่ ผักใบเขียว ผลไม้ตระกูลส้ม อะโวคาโด มันเทศ บล็อกโคลี่ นอกจากนี้ยังมีโปรตีนจากเนื้อปลา เนื้อไก่ ไปจนถึงธัญพืชเต็มเมล็ด อย่างโฮลวีต ข้าวโอ๊ต ข้าวกล้อง และที่สำคัญ คุณแม่ควรทานไขมันที่ดีต่อสุขภาพอย่าง โอเมก้า 3 เพราะโอเมก้า 3 มีส่วนสำคัญต่อการพัฒนาสมองและดวงตาของทารก

📌 คลิกอ่านเพิ่มเติม : 8 อาหารบำรุงครรภ์ ช่วยบำรุงลูกน้อยในครรภ์ให้แข็งแรง ได้สารอาหารสำคัญอย่างครบถ้วน

2.ดื่มน้ำให้เพียงพอ 

น้ำถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยกระตุ้นพัฒนาการทารกในครรภ์ และน้ำก็มีบทบาทสำคัญในการสร้างเลือดในร่างกาย หากคุณแม่ดื่มน้ำในปริมาณที่เพียงพอ ร่างกายจะมีเลือดที่สม่ำเสมอ ซึ่งส่งผลดีต่อพัฒนาการของทารกในครรภ์ โดยทำให้ทารกในครรภ์มีพัฒนาการทางด้านร่างกาย และมีการเจริญเติบโตที่ดียิ่งขึ้น

3.เคลื่อนไหวร่างกายและออกกำลังกาย

การเคลื่อนไหวร่างกาย หรือการออกกำลังกายเป็นประจำจะช่วยเรื่องการไหลเวียนโลหิต ช่วยลดภาวะความเสี่ยงที่คุณแม่จะเกิดอาการไม่สบายในขณะตั้งครรภ์ นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นระบบประสาทสัมผัสของทารก ช่วยเพิ่มพัฒนาการที่ดีให้กับทารกในครรภ์ ดังนั้นคุณแม่จึงควรออกกำลังกายเบาๆ ด้วยการ เดิน ว่ายน้ำ หรือเล่นโยคะ เป็นประจำ 

การออกกำลังกายอย่างโยคะ เป็นวิธีกระตุ้นพัฒนาการทารกในครรภ์

4.ส่องไฟที่หน้าท้อง 

การวิจัยทางการแพทย์ได้สรุปว่า การส่องไฟที่หน้าท้องของแม่ ช่วยกระตุ้นพัฒนาการของทารกในครรภ์ได้ โดยการส่องไฟที่หน้าท้อง จะทำให้เซลล์สมองและเส้นประสาทส่วนรับภาพและการมองเห็นของทารกมีการพัฒนาที่ดีขึ้น นอกจากนี้การส่องไฟที่หน้าท้องยังเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับการมองเห็นของทารกหลังคลอด ส่วนช่วงเวลาที่เหมาะควรแก่การส่องไฟ คือช่วงอายุครรภ์ประมาณ 7 เดือนขึ้นไป 

5.พูดคุยกับลูกเป็นประจำ 

การพูดคุยกับลูกในครรภ์เป็นประจำ จะช่วยกระตุ้นระบบประสาทและสมองในส่วนของการได้ยินของทารก และการพูดคุยกับลูกเป็นประจำก็ยังส่งผลดีต่อสายสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่และลูก โดยจะทำให้ลูกในครรภ์คุ้นเคยกับเสียงพ่อและแม่ นอกจากนี้ยังทำให้ลูกสามารถจดจำเสียงของมารดาหลังคลอดได้ ดังนั้นคุณพ่อและคุณแม่จึงควรพูดคุยกับลูกเป็นประจำ เพื่อสร้างสายสัมพันธ์ที่ดี และเสริมสร้างพัฒนาการทางการได้ยินที่ดีให้กับลูก

6.ปรับอารมณ์ให้ดีอยู่เสมอ 

การศึกษาและการวิจัยทางการแพทย์พบว่า ร่างกายของคุณแม่ที่มีอารมณ์ดี มีการหลั่งสารแห่งความสุข หรือเอ็นโดรฟินออกมาผ่านทางสายสะดือ และส่งต่อไปให้กับลูกในครรภ์ ซึ่งนั่นก็ทำให้ลูกในครรภ์มีสุขภาพจิตที่ดี  มี IQ และ EQ ในระดับที่สูง ดังนั้นคุณแม่ของเด็กควรทำตัวเองให้อารมณ์ดีอยู่เสมอ โดยทำได้ด้วยการจัดการกับความเครียด ฝึกหายใจเข้าออกลึกๆ หรือฝึกทำสมาธิ เป็นต้น 

7.นวดท้องและลูบหน้าท้องเบาๆ 

การลูบหน้าท้อง หรือนวดหน้าท้องเบาๆเป็นประจำ จะช่วยกระตุ้นระบบประสาท และกระตุ้นสมองส่วนรับรู้ความรู้สึกของลูก ทำให้ลูกมีพัฒนาการด้านความรู้สึกที่ดีขึ้น สำหรับการนวดหน้าท้องนั้น ควรนวดช้าๆเบาๆ 1-2 นาที ส่วนการลูบหน้าท้องนั้น ควรลูบให้เป็นวงกลม ประมาณ 1-2 นาที โดยจะนวดจากบนลงล่าง หรือจากล่างขึ้นบนก็ได้

8.ฟังเพลง

การฟังเพลงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยกระตุ้นพัฒนาการของทารกในครรภ์ โดยจะทำให้เครือข่ายใยประสาทที่ทำงานเกี่ยวกับการได้ยินมีพัฒนาการที่ดีขึ้น แต่เพลงที่คนเป็นแม่ควรฟัง ควรเป็นเพลงที่มีจังหวะนุ่มนวล และมีเมโลดี้ที่ไพเราะ เพราะเพลงแนวนี้จะทำให้แม่และลูกอารมณ์ดี ส่วนเพลงที่ไม่เหมาะสมกับแม่และเด็ก คือเพลงที่มีเสียงร้องสูงและดังเกินไป เนื่องจากเพลงเหล่านี้ทำให้แม่และเด็กเกิดความเครียด และเกิดความไม่สบายใจ

การฟังเพลง สามารถช่วยกระตุ้นพัฒนาการทารกในครรภ์ได้

9.อ่านหนังสือให้ลูกฟัง 

โดยปกติทารกในครรภ์จะเริ่มได้ยินเสียงตั้งแต่อายุครรภ์ประมาณ 5 เดือน ดังนั้นในช่วงนี้คุณพ่อและคุณแม่ควรจะหาหนังสือมาอ่านให้ลูกฟัง โดยหนังสือที่ควรอ่านให้ลูกฟัง ควรเป็นหนังสือวรรณกรรมเด็กและเยาวชน หรือนิทานเด็ก เพราะหนังสือประเภทนี้มีเนื้อเรื่องที่เบาสมอง ทำให้คนที่เป็นแม่รู้สึกผ่อนคลาย เมื่อแม่ผ่อนคลาย เด็กในครรภ์ก็จะผ่อนคลายตามไปด้วย นอกจากนี้เสียงสะท้อนจากการอ่านหนังสือยังช่วยกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อสมองในชั้นที่มีความซับซ้อนด้านการได้ยินให้กับลูก ทำให้ลูกมีพัฒนาการทางการได้ยินที่ดีอีกด้วย 

10.ดมกลิ่นหอมๆ 

การดมกลิ่นหอมจะช่วยเสริมสร้าง และพัฒนาระบบประสาทสัมผัสในส่วนการแยกแยะให้กับทารก และยังเสริมสร้างพัฒนาการด้านการรับกลิ่นให้ดียิ่งขึ้น สำหรับการใช้กลิ่นหอมในระหว่างการตั้งครรภ์ ควรใช้กลิ่นหอมจากธรรมชาติ อะโรม่าอ่อนๆ หรือน้ำมันสกัดจากพืชอื่นๆ เพราะกลิ่นหอมที่ได้ธรรมชาติและน้ำมันเหล่านี้จะทำให้ผู้เป็นแม่รู้สึกผ่อนคลาย ซึ่งก็ส่งผลดีต่อสุขภาพของทั้งแม่และทารกในครรภ์

ทำไมพ่อแม่ถึงควรส่งเสริมพัฒนาการทารกในครรภ์ ?

พ่อแม่ควรส่งเสริมพัฒนาการของทารกในครรภ์ เพราะการส่งเสริมพัฒนาการเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างสุขภาพ และความสามารถของเด็ก โดยช่วงก่อนคลอดเป็นช่วงเวลาที่เหมาะกับการส่งเสริมพัฒนาการทารกมากที่สุด สำหรับพ่อแม่ที่ทำการส่งเสริมพัฒนาการของทารกในครรภ์ตั้งแต่ช่วงนี้ ทารกในครรภ์จะมีพัฒนาการที่ดี มีการพัฒนาด้านสมอง ความสามารถทางปัญญา การเรียนรู้ และยังมีการพัฒนาทางด้านอารมณ์ที่ดีอีกด้วย 

📌 คลิกอ่านเพิ่มเติม : โรคหัวใจในเด็ก มีสาเหตุมาจากอะไร แบ่งเป็นกี่ประเภท วิธีการตรวจวินิจฉัยและรักษา มีอะไรบ้าง

การกระตุ้นพัฒนาการทารกในครรภ์ ระหว่างการตั้งครรภ์เป็นสิ่งสำคัญในการเสริมสร้างการเจริญเติบโต และช่วยเสริมสร้างพัฒนาการทางระบบประสาทและสมองในส่วนต่างๆ ของทารกได้ ดังนั้นพ่อแม่เด็กควรกระตุ้นพัฒนาการของเด็กในครรภ์ตั้งแต่แรกเริ่ม ด้วยการออกกำลังกาย ฟังเพลง นวดและลูบหน้าท้อง หรือพูดคุยกับลูกเป็นประจำทุกวัน 

และถ้าหากว่าคุณพ่อแม่อยากฟังเสียงหัวใจทารกในครรภ์ เพื่อตรวจเช็คความผิดปกติและสุขภาพของลูกน้อย ควรใช้เครื่องฟังเสียงหัวใจทารกในครรภ์จาก Rakmor เพราะเครื่องฟังเสียงหัวใจทารกในครรภ์ของทางร้านเป็นเครื่องมือที่ได้มาตรฐาน ช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ฟังเสียงหัวใจของลูกในครรภ์ได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังช่วยให้พ่อแม่ หรือผู้ดูแลได้รู้ถึงความปกติ และความไม่ปกติของทารกในครรภ์ได้ตั้งแต่เนิ่นๆ อีกด้วย 

ขอใบเสนอราคาด่วน...คลิก

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *