ถังออกซิเจน ถังออกซิเจนพกพาขนาดเล็ก และขนาดใหญ่พร้อมอุปกรณ์ ราคาคุ้มค่า ได้มาตรฐานทางการแพทย์
ถังออกซิเจน
ถังออกซิเจน ถือได้ว่าเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่มีความสำคัญสำหรับผู้ป่วยเป็นอย่างมาก โดยหน้าที่ของถัง Oxygen คือ นำส่งก๊าซออกซิเจนให้ผู้ป่วยที่มีปริมาณออกซิเจนในเลือดต่ำ หน้าที่การทำงานคล้ายกันกับเครื่องผลิตออกซิเจน แต่ถังออกซิเจนนั้นจะไม่สามารถผลิตออกซิเจนออกมาเองได้ ถังออกซิเจนผู้ป่วยจะเป็นเพียงแค่ตัวบรรจุออกซิเจนไว้เพียงเท่านั้น ในการให้ออกซิเจนกับผู้ป่วยจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์อื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ท่อออกซิเจน หน้ากากออกซิเจน ท่อเปิดทางเดินหายใจ ฯลฯ
โดยถังออกซิเจนนั้นจะมีอยู่หลาดขนาดให้ใช้งาน ตั้งแต่ขนาด 0.5 คิว ไปจนถึง 6 คิว และที่ได้รับความนิยมมากที่สุดจะเป็นถังออกซิเจนพกพา ซึ่งราคาถังออกซิเจนก็จะแตกต่างกันไปตามขนาดและความต้องการใช้งาน
ถังออกซิเจน คืออะไร ?
ถังออกซิเจน (Oxygen Tank) คือ อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่มีไว้สำหรับรักษาหรือฟื้นฟูร่างกายของผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจหรือมีปริมาณออกซิเจนในเลือดต่ำ การใช้ถังลมอ๊อกซิเจนและท่อออกซิเจน ช่วยให้ดูแลผู้ป่วยที่บ้านได้อย่างสะดวกมากขึ้น เพราะอาจไม่จำเป็นต้องเดินทางไปให้ออกซิเจนที่โรงพยาบาล หากบ้านไหนมีเครื่องผลิตออกซิเจนอยู่แล้วก็สามารถซื้อถังออกซิเจนช่วยหายใจสำรองไว้ก็ได้ เพื่อความปลอดภัยและมั่นใจมากขึ้น หากเกิดกรณีฉุกเฉิน เช่น ไฟฟ้าดับ เครื่องผลิตออกซิเจนจะไม่สามารถทำงานได้แต่ถังออกซิเจนสามารถทำงานได้แทน จึงช่วยลดความเสี่ยงไม่ให้ผู้ป่วยเกิดภาวะขาดออกซิเจนได้
ถังออกซิเจน กับ เครื่องผลิตออกซิเจน แตกต่างกันอย่างไร
แม้ว่าถังออกซิเจนและเครื่องผลิตออกซิเจน จะมีวัตถุประสงค์ในการใช้งานที่เหมือนกัน คือใช้สำหรับให้ออกซิเจน และทำออกซิเจนบำบัดเพื่อรักษาโรค แต่ถึงอย่างนั้นความแตกต่างระหว่างถังออกซิเจน กับเครื่องผลิตออกซิเจน ก็มีอยู่หลากหลายอย่าง
โดยถัง Oxygen จะเป็นถังที่บรรจุออกซิเจนบริสุทธิ์ที่มีความเข้มข้นสูง สามารถนำไปใช้งานได้โดยไม่ต้องใช้ไฟฟ้า และเมื่อออกซิเจนในถังหมด ก็สามารถเติมออกซิเจนและนำไปใช้งานต่อได้ ส่วนเครื่องผลิตออกซิเจน จะต้องทำการสร้างหรือผลิตออกซิเจนขึ้นมาก่อน แล้วค่อยปล่อยออกมาให้กับผู้ป่วย ทำให้ในระหว่างใช้งานเครื่องผลิตออกซิเจน จำเป็นต้องเสียบปลั๊กไฟไว้ตลอดเวลา แต่ก็มีข้อดีที่ไม่ต้องคอยเติมออกซิเจนเหมือนถังออกซิเจน ซึ่งรายละเอียดข้อดี-ข้อเสียของแต่ละอุปกรณ์ มีดังนี้
ข้อดีของถังออกซิเจน
- ถังออกซิเจนมีราคาถูกมากกว่าเครื่องผลิตออกซิเจนและสามารถหาซื้อได้ง่าย
- ออกซิเจนในถังออกซิเจนนั้นมีค่าความเข้มข้นสูงถึง 99 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือว่ามีความบริสุทธิ์ของออกซิเจนที่มาก
- ในกรณีที่ออกซิเจนในถังหมด สามารถนำไปเติมก๊าซได้โดยไม่ต้องซื้อใหม่ เพื่อประหยัดต้นทุนหรือประหยัดเงินในกระเป๋า
- นำถังออกซิเจนมาใช้สลับกับเครื่องผลิตออกซิเจนได้ เพื่อให้เครื่องผลิตออกซิเจนได้พักการทำงานทำให้เครื่องผลิตออกซิเจนมีอายุการใช้งานที่ยาวนานมากขึ้น
- ถังออกซิเจนสามารถให้ออกซิเจนผ่านท่อออกซิเจนในอัตราที่สม่ำเสมอไม่แตกต่างไปจากเครื่องผลิตออกซิเจน แต่ต้องเป็นถังออกซิเจนที่มีคุณภาพได้มาตรฐานเท่านั้น
ข้อเสียของถังออกซิเจน
- การใช้ถังออกซิเจนนั้นมีข้อจำกัด คือ จะต้องคอยเติมออกซิเจนให้เต็มอยู่ตลอดเวลา ทำให้ต้องเสียเวลาไปกับการจัดการเรื่องการเติมก๊าซออกซิเจน
- ถังออกซิเจนมีค่าใช้จ่ายมากกว่าเครื่องผลิตออกซิเจนในระยะยาว หากลองมาคำนวณราคาค่าถังออกซิเจนและค่าใช้จ่ายทั้งหมด การใช้ถังออกซิเจนมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างมาก เช่น มีค่าใช้จ่ายแอบแฝง ทั้งเรื่องของการเติมก๊าซออกซิเจน ค่าขนส่ง ค่าเดินทาง หรืออาจต้องซื้อถังออกซิเจนสำรองเพิ่ม เพื่อให้เพียงพอสำหรับการใช้งานเมื่อถังก๊าซออกซิเจนถังหมด
ข้อดีของเครื่องผลิตออกซิเจน
- สามารถใช้งานได้สะดวก ไม่มีขั้นตอนยุ่งยาก เพียงเสียบปลั๊กและเปิดเครื่อง ก็สามารถใช้งานได้ทันที
- ใช้งานได้ต่อเนื่องตลอดเวลา เพราะไม่ต้องกังวลเรื่องออกซิเจนหมด
- ไม่ต้องเสียเวลาไปเติมออกซิเจน เพราะสามารถผลิตออกซิเจนได้เอง
- คุ้มค่ากับการซื้อใช้งานระยะยาว ซื้อเพียงครั้งเดียวแล้วสามารถใช้งานได้ยาวๆ ไม่ต้องเปลี่ยนบ่อย
ข้อเสียของเครื่องผลิตออกซิเจน
- หากไฟฟ้าดับ หรืออยู่ในที่ที่ไม่มีไฟฟ้า จะไม่สามารถใช้งานได้
- หากระบบหรือส่วนประกอบของเครื่องขัดข้อง จะไม่สามารถใช้งานได้
- ไม่สามารถนำไปใช้งานนอกสถานที่ หรือระหว่างการเดินทางได้ แต่ปัจจุบันก็มีเครื่องผลิตออกซิเจนที่สามารถใช้แบตเตอรี่ หรือเชื่อมกับไฟของรถยนต์ได้
ถังออกซิเจนทางการแพทย์ เหมาะกับใคร ?
การใช้ถังออกซิเจนทางการแพทย์ร่วมกับท่อออกซิเจน เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่มีระดับออกซิเจนในเลือดต่ำที่ต้องการออกซิเจนอย่างสม่ำเสมอ ถังออกซิเจนแบบพกพาสามารถใช้ได้กับผู้ป่วยที่อาการไม่หนักหรือผู้สูงอายุที่ต้องออกไปทำกิจกรรมนอกบ้าน สาเหตุที่ทำให้ระดับออกซิเจนในเลือดต่ำลงจนต้องใช้ถังออกซิเจนผู้ป่วย เช่น ระบบการหายใจเกิดการบกพร่อง ภาวะการเผาผลาญของร่างกายผิดปกติไปจากเดิม หรือเกิดปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ รวมถึงผู้ที่มีภาวะโลหิตจาง ตลอดจนสมองได้รับการบาดเจ็บ ฯลฯ
ถังออกซิเจนผู้ป่วยเหมาะที่จะใช้งานทั้งภายในสถานพักฟื้น สถานพยาบาล หรือใช้งานได้ที่บ้านก็ได้ นอกจากนี้ก็ยังมีถังออกซิเจนพกพาราคาถูกให้เลือกซื้อด้วยเช่นกัน เหมาะมากๆ สำหรับการสำรองปริมาณออกซิเจนเพื่อเอาไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน
📌 คลิกอ่านเพิ่มเติม : การใช้งานเครื่องผลิตออกซิเจนและถังออกซิเจน เหมาะกับใครมากที่สุด ! ใครบ้างที่ควรใช้เพื่อเพิ่มออกซิเจนให้กับร่างกายวิธีการใช้ถังออกซิเจนที่บ้าน อย่างถูกต้องและปลอดภัย
เนื่องจากถังออกซิเจนทางการแพทย์ นั้นเป็นสิ่งที่มีความสำคัญกับผู้ป่วยที่มีภาวะออกซิเจนในเลือดต่ำ หรือผู้ป่วยที่ต้องพักฟื้นร่างกาย ดังนั้นจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องมีการใช้งานถังออกซิเจนที่บ้าน ซึ่งแม้ว่าเราจะรู้วิธีการใช้ถังออกซิเจนผู้ป่วยที่ถูกต้องไปแล้ว แต่การใช้งานที่บ้านให้ปลอดภัยก็มีแนวทางตั้งแต่ก่อนใช้ ระหว่างใช้ และหลังใช้งานที่ต้องระมัดระวัง ดังนี้
ก่อนใช้ถังออกซิเจน
- ตรวจเช็คสภาพความสมบูรณ์ของถังออกซิเจน ว่ามีรอยรั่ว รอยร้าว และมีสัญลักษณ์ มอก. หรือไม่ ก่อนนำมาใช้งาน
- หากถังออกซิเจนมีสนิมขึ้นแล้ว ควรเปลี่ยนถังใหม่ และไม่ควรนำมาใช้งาน
- เนื่องจากก๊าซออกซิเจนเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาและไวต่อการติดไฟ ดังนั้นควรเตรียมหรือวางถังดับเพลิงไว้ๆ กัน เผื่อเกิดอุบัติเหตุหรือกรณีฉุกเฉิน
- เช็คหัวปรับแรงดันของถังออกซิเจน ต้องเป็นหัวปรับที่ใช้สำหรับก๊าซออกซิเจนเท่านั้น
ระหว่างใช้ถังออกซิเจน
- ในระหว่างการใช้งาน ควรวางถังออกซิเจนในแนวตั้ง ไม่วางนอนไปกับพื้น และหาอะไรยึดให้แน่น
- ระวังไม่ให้ถัง Oxygen หล่นหรือได้รับการกระแทกแรงๆ เพราะอาจทำให้ถังระเบิดได้
- ไม่ใช้งานถังออกซิเจนทางการแพทย์ ใกล้กับแหล่งกำเนิดไฟ วัสดุที่ติดไปง่าย และไม่ใช่ในที่ที่มีความร้อนหรืออุณหภูมิสูงๆ
หลังใช้ถังออกซิเจน
- หลังจากใช้ถังออกซิเจนเสร็จ ต้องปิดวาล์วของถังให้สนิท เพื่อป้องกันการรั่วไหลของก๊าซ
- จัดเก็บและวางถังออกซิเจนให้อยู่ในแนวตั้ง และยึดให้แน่น เพื่อไม่ให้ถังล่มและได้รับการกระแทก
- จัดเก็บให้ห่างจากแหล่งกำเนิดไฟหรือที่มีความร้อนสูง และไม่เก็บไว้ในที่ปิด เช่น ในตู้ หรือในรถยนต์
- ควรเช็ดทำความสะอาดภายนอกตัวถังด้วยแอลกอฮอล์ ก่อนส่งคืนหรือส่งไปเติมออกซิเจน
ข้อควรระวังในการใช้ถังออกซิเจนพกพา
- ระวังอย่าให้ถังออกซิเจนหล่น หรือได้รับแรงกระแทก เพราะอาจะทำให้เกิดความเสียหายและระเบิดได้
- ในขณะใช้งาน Oxygen tank ควรตั้งถังอ๊อกซิเจนในแนวตั้งให้มั่นคง
- ไม่ควรใช้งานถังออกซิเจนไฟฟ้า ใกล้กับบริเวณที่มีความร้อนหรือเปลวไฟ
- ห้ามใช้หรือทาผลิตภัณฑ์ที่มีความไวไฟ เช่น เจลแอลกอฮอล์ ครีม หรือสเปรย์ ก่อนใช้ถังออกซิเจน
- ไม่ควรวางหรือเก็บถังออกซิเจนไว้ภายในรถ โดยเฉพาะภายในห้องโดยสาร เพราะอาจเกิดอันตรายได้หากออกซิเจนเกิดการรั่ว
ถังออกซิเจนมีกี่ขนาด ให้เลือกใช้งาน
ปัจจุบันขนาดของถังออกซิเจน หรือ Oxygen Tank มีให้เลือกด้วยกันหลากหลายขนาด เช่น ถังออกซิเจนแบบพกพาขนาดเล็ก และถังออกซิเจนไฟฟ้าขนาดใหญ่ ยิ่งเป็นถังออกซิเจนที่มีความจุมากก็จะทำให้มีปริมาณของออกซิเจนที่มากขึ้นตามไปด้วย ซึ่งการทราบขนาดของถังออกซิเจน จะทำให้สามารถคาดการณ์ได้ว่าถังออกซิเจนใช้ได้กี่ชั่วโมง ? ถึงจะหมดและต้องเติมก๊าซออกซืเจน สำหรับขนาดถังออกซิเจนที่นิยมนำไปใช้งาน มีดังนี้
1.ถังออกซิเจนขนาด 0.5 คิว
สำหรับถังออกซิเจนผู้ป่วยขนาดแรก คือ ถังออกซิเจน 0.5 คิว เป็นถังออกซิเจนขนาดเล็กที่มีความจุของออกซิเจน 3.4 ลิตร ตัวถังทำมาจากเหล็กที่มีความแข็งแรงทนทาน มีขนาดเล็กและมีน้ำหนักเพียง 6.2 กิโลกรัม จึงทำให้สามารถเคลื่อนย้ายได้ง่าย
2.ถังออกซิเจนขนาด 1.5 คิว
ถังออกซิเจน 1.5 คิว ถือเป็นขนาดถังออกซิเจนพกพาที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากเป็นขนาดที่กำลังพอดี คือไม่เล็กและก็ไม่ใหญ่จนเกินไป มีขนาดความจุออกซิเจนที่มากขึ้นเป็น 10 ลิตร จึงสามารถใช้งานได้นานกว่าขนาด 0.5 คิว
3.ถังออกซิเจนขนาด 2 คิว
ต่อมาจะเป็นถังออกซิเจน 2 คิว ที่มีความจุของออกซิเจนอยู่ที่ 13.4 ลิตร เหมาะสำหรับใช้งานกับผู้ป่วยที่ต้องการออกซิเจนในปริมาณที่สูงขึ้น มีอัตราการไหลของออกซิเจนผ่านท่อออกซิเจนที่มากขึ้น แต่ก็จะแลกมากับการมีน้ำหนักของตัวถังออกซิเจนที่มากขึ้นเป็น 16 กิโลกรัม
4.ถังออกซิเจนขนาด 6 คิว
ถังออกซิเจนขนาดสุดท้ายที่ได้รับความนิยม และถือเป็นขนาดที่ใหญ่ที่สุดก็คือ ถังออกซิเจน 6 คิว ซึ่งสามารถบรรจุออกซิเจนได้มากถึง 40 ลิตร เหมาะสำหรับการใช้เป็นถังออกซิเจนสำรอง เพื่อใช้ให้ออกซิเจนกับป่วย ไม่เหมาะสำหรับการพกพา เนื่องจากตัวถังมีขนาดใหญ่และมีน้ำหนักมากถึง 48 กิโลกรัม
.ส่วนประกอบของถัง Oxygen มีอะไรบ้าง
1.ท่อออกซิเจน
ท่อออกซิเจน หรือ สายให้ออกซิเจน นั้นมีด้วยกันหลายแบบ มีทั้งท่อลมออกซิเจนหรือสายให้ออกซิเจนผ่านจมูก รวมไปถึงหน้ากากออกซิเจน ที่สามารถใช้งานเชื่อมต่อเข้ากับถังออกซิเจนได้ โดยควรเลือกใช้ท่อออกซิเจนให้เหมาะสม หรือเลือกตามคำแนะนำของแพทย์
2.ถังออกซิเจน
ถังออกซิเจนเป็นส่วนที่มีความสำคัญ เนื่องจากเป็นส่วนที่ใช้บรรจุออกซิเจนเพื่อใช้ในการส่งออกซิเจนให้กับผู้ป่วยผ่านทางท่อออกซิเจน ปัจจุบันนิยมถังออกซิเจนที่ผลิตจากอลูมิเนียมและเหล็ก เพราะมีโครงสร้างแข็งแรงทนทานไม่เป็นสนิม หากถังออกซิเจนเกิดการรั่ว จะส่งผลให้ถังออกซิเจนนั้นใช้งานได้ไม่ได้นาน มีการสูญเสียออกซิเจนออกไปโดยที่ไม่ได้ใช้งาน
3.เกจ์ออกซิเจน
เกจ์ออกซิเจนจะมีกระบอกไว้ดูปริมาณออกซิเจน ที่ส่งจากถังออกซิเจนผ่านท่อออกซิเจนออกไปสู่ตัวคนไข้ มีวาล์วสำหรับเปิด-ปิด สามารถปรับปริมาณที่ต้องการได้ ซึ่งปริมาณนั้นขึ้นอยู่กับคำแนะนำของหมอ เกจ์ออกซิเจนจะมีหน้าปัดที่บอกความดันของออกซิเจนและกระบอกแสดงปริมาณคร่าว ๆ ของความดันที่เหลืออยู่ และเกจ์ออกซิเจนจะมีตัวแกนที่ไว้สำหรับใส่ติดกับถังออกซิเจน
4.กระบอกให้ความชื้น
สำหรับกระบอกให้ความชื้น นั้นจะมีลักษณะเป็นกระปุกสำหรับใส่น้ำต้มสุกที่ปล่อยทิ้งไว้จนอุณหภูมิเย็นหรือน้ำสะอาดที่ปราศจากเชื้อโรค ใช้งานร่วมกันกับถังออกซิเจน โดยการใช้สายนำออกซิเจนต่อจากกระปุกให้ความชื้นเพื่อส่งไปยังผู้ป่วย
📌 คลิกอ่านเพิ่มเติม : 3 รูปแบบ เลือกอุปกรณ์ให้ออกซิเจนทางจมูก แบบไหนดี ให้เหมาะสมกับผู้ป่วยมากที่สุดถังออกซิเจน ราคาเท่าไหร่ ?
ถังออกซิเจนนั้นมีให้เลือกซื้อหลากหลายราคามากๆ ตั้งแต่ถังออกซิเจนราคาถูก ไปจนถึงถังอ๊อกซิเจนราคาสูงๆ โดยราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่หลักพันต้นๆ แต่ถ้าซื้อชุดถังออกซิเจนพร้อมอุปกรณ์อย่างท่อออกซิเจน ก็จะมีราคาสูงเพิ่มขึ้นไปอีก เริ่มต้นถังออกซิเจนพกพา ราคาเริ่มต้น 2,000 บาท ซึ่งก็ยังถือว่าถูกกว่าเครื่องผลิตออกซิเจนที่มีราคาสูงถึงหลักหมื่น และยิ่งเป็นเครื่องผลิตออกซิเจนที่มีจำนวนลิตรมากๆ เช่น เครื่องผลิตออกซิเจน 10 ลิตร 9 ลิตร 8 ลิตร ฯลฯ ราคาก็สูงขึ้น
คลิกสอบถามข้อมูลได้ที่นี่ 👇🏻ซื้อถังออกซิเจนจากที่ไหนดี ?
ปัจจุบันถังออกซิเจนและท่อออกซิเจน สามารถหาซื้อได้ง่ายและสะดวกมากๆ ทั้งจากร้านที่จำหน่ายอุปกรณ์การแพทย์ต่างๆ และยังสามารถหาซื้อทางออนไลน์ได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นทางเว็บไซต์ของผู้จัดจำหน่าย หรือทางช่องทางอื่นๆ อย่าง Shopee Lazada ก็สามารถซื้อได้เช่นเดียวกัน ซึ่งถือว่าหลากหลายมากๆ แถมยังสามารถเลือกซื้อได้ตลอด 24 ชม. อีกด้วย ตอบโจทย์คนที่ไม่สะดวกไปซื้อที่หน้าร้านโดยตรง แต่สิ่งสำคัญที่สุดเลยคือ จะต้องซื้อจากร้านที่มีความน่าเชื่อถือ มีรายละเอียดของถังออกซิเจนขนาดต่างๆ ชัดเจน และควรมีการรับประกันสินค้าให้ด้วย
หากคุณสนใจอยากซื้อถังออกซิเจนพร้อมท่อออกซิเจนดีๆ ราคาถูก ได้มาตรฐาน และมีการรับประกันสินค้า แต่ไม่รู้ว่าจะเลือกซื้อที่ไหนดี? เราขอแนะนำ Rakmor.com ศูนย์รวมเครื่องมือทางการแพทย์ อุปกรณ์ทางการแพทย์มากมายหลายชนิด สำหรับผู้ป่วย ผู้สูงอายุและผู้พิการ จัดจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์แบบครบวงจร
Rakmor ขายถังออกซิเจน ถังออกซิเจนพกพา ราคาถูก คุณภาพดี
Rakmor ร้านขายถังออกซิเจน ราคาถูก มีคุณภาพ และได้มาตรฐานในระดับสากล ขายส่งถังออกซิเจนพกพา ขายทั้งในราคาส่งและราคาปลีก จำหน่ายท่อออกซิเจนและถังออกซิเจนพร้อมอุปกรณ์ครบชุด แถมยังมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำและให้คำปรึกษาอย่างมืออาชีพ ช่วยให้คุณเลือกถังออกซิเจนที่ตรงกับความต้องการใช้งานของผู้ป่วยได้ สามารถสั่งซื้อถังออกซิเจนผู้ป่วย รวมถึงเครื่องผลิตออกซิเจน และอุปกรณ์ช่วยหายใจอื่นๆ ได้ทาง Rakmor Shop, Shopee และ Lazada
ถังออกซิเจน หรือถังออกซิเจนทางการแพทย์ เป็นอุปกรณ์สำหรับใช้ในการให้ออกซิเจนกับผู้ป่วย เพื่อเพิ่มระดับของออกซิเจนในร่างกาย ช่วยให้ผู้ป่วยหายใจได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ซึ่งถังออกซิเจนจะแตกต่างจากเครื่องผลิตออกซิเจน ตรงที่จำเป็นต้องเติมออกซิเจนเมื่อหมด และไม่สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องตลอดเวลา จึงทำให้เหมาะกับการเป็นถังออกซิเจนสำรองมากกว่า โดยถังออกซิเจนจะมีหลายขนาดให้เลือกใช้งาน ซึ่งความมจุของออกซิเจนและระยะเวลาในการใช้งานจะต่างกัน ดังนั้นจึงควรเลือกให้เหมาะกับการใช้งาน และความต้องการออกซิเจนของผู้ป่วยด้วย